ผู้ว่าลำปางเผยแก้ไฟป่าลำปางไม่ง่ายเหมือนเชียงรายและพะเยาไม่มีงบบริหารจัดการ เร่งออกมาตรการขันน็อต13อำเภอ ให้ได้ตามเป้า 50:50:70

Last updated: 24 ม.ค. 2563  |  1955 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ผู้ว่าลำปางเผยแก้ไฟป่าลำปางไม่ง่ายเหมือนเชียงรายและพะเยาไม่มีงบบริหารจัดการ เร่งออกมาตรการขันน็อต13อำเภอ ให้ได้ตามเป้า 50:50:70

ผู้ว่าลำปางเผยแก้ไฟป่าลำปางไม่ง่ายเหมือนเชียงรายและพะเยาไม่มีงบบริหารจัดการ เร่งออกมาตรการขันน็อตทุกส่วน ย้ำการปฏิบัติการให้นำด้วยเรื่องสาธารณสุข สุขภาพเป็นหลัก ขณะที่ค่าฝุ่นPM2.5เกินมาตรฐานติดต่อกันเป็นวันที่19

จากสถาการณ์ไฟไหม้ป่าที่เกิดขึ้นกระจัดกระจายในหลายพื้นที่ของจังหวัดลำปาง แบบต่อเนื่องไม่หยุด และส่วนใหญ่จะเป็นในป่า บนภูเขาสูง ที่ยากต่อการเข้าไปดับของเจ้าหน้าที่ ส่วนพื้นราบที่เข้าถึงการปฎิบัติงานของเหยี่ยวไฟ ซึ่งทำงานตามที่ศูนย์วอร์รูมไฟป่าประสานและสั่งการเข้าดับไฟในแต่ละจุดถือว่าเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วและดับเร็วเช่นกัน แต่การจุดไฟเผาทั้งในพื้นที่การเกษตรของเกษตรกรก็ยังคงมีให้เห็นกันตลอดแม้จะมีการแจ้งจับ ปรับ ไปแล้วบางส่วน แต่ก็เหมือนว่าเกษตรกรหรือชาวบ้านในพื้นที่จะได้ได้ใส่ใจหรือสนใจในเรื่องนี้ จึงทำให้เกิดไฟไหม้ลุกลามเข้าพื้นที่ป่าไม่หยุด

นายณรงค์ศักดิ์  โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เปิดอกกับสื่อมวลชนถึงการแก้ปัญหาหมอกควันไฟและการเผาป่าที่กำลังเป็นวิกฤติด้านอากาศของคนลำปางในขณะนี้ว่า ตนเองได้ตั้งเป้าไว้ว่า ด้วยสถิติปีที่ผ่านมาด้านสุขภาพมีผู้ป่วยที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ  วางเป้าให้คนป่วยน้อยลง 70% จุดความร้อนหรือ Hot Spot เป้าต้องลดลง 50% ส่วนวันที่ค่า PM 2.5 เกินกี่วันในปีที่ผ่านมา ต้องลดให้ได้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งหากทำได้ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายของจังหวัดที่ตั้งไว้ แต่ตอนนี้ตนเองยอมรับเลยว่าการแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าของจังหวัดลำปางยากกว่าจังหวัดเชียงราย และพะเยา ด้วยบริบทหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้การแก้ปัญหาไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ทั้งจุดเกิดความร้อน จำนวนการเผาป่า หรือแม้แต่ผู้ที่เจ็บป่วยที่ตั้งเผ้าลดลงทั้งหมดแต่ก็ยังทำได้ไม่ดี ด้านงบประมาณก็ไม่ได้ถือว่าเป็นศูนย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยังไม่ได้รับงบประมาณมาดำเนินการแม้แต่บาทเดียว การที่เคยวางแผนว่าจะนำเงินจ้างคนที่อยู่รอบป่าให้มาเป็นผู้ดูแลและดับไฟเมื่อเกิดเหตุ เหมือนที่เชียงรายก็ทำไม่ได้เพราะไม่มีงบประมาณ แต่ละอำเภอดำเนินการก็ยังอ่อน ซึ่งเรื่องนี้ตนเองจะต้องเร่งขันน็อตนายอำเภอทั้ง13 อำเภอ ให้ทำงานเชิงรุกให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ และ อีกอย่างที่ลำปางไม่เหมือนจังหวัดอื่นคือ บริบทความร่วมมือของประชาชน ส่วนใหญ่รอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเพราะเห็นว่าเสียภาษีให้รัฐแล้วดังนั้นจึงจะเห็นว่าเมื่อมีการขอความร่วมมือกับประชาชนโดยรอบจะยากกว่าที่ตนเองเคยทำงานมา ซึ่งปัญหาเหล่านี้ต้องนำมาวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วการดำเนินการด้านกฎหมายจำเป็นต้องเด็ดขาดกว่านี้ไหม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางกล่าวว่า จริงๆแล้วเรื่องการดำเนินบังคับให้ใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่นกฎหมายสาธารณะสุขซึ่งง่าย และกฎหมายอื่นๆตนได้มอบนโยบายไปแล้ว แต่ผู้ปฎิบัติก็ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีปัญหาระหว่างหน่วยงานที่จะต้องพูดคุยและทำความเข้าใจตรงกัน

ด้านการประชาสัมพันธ์การทำงานหรือนโยบายต่างๆ ตนเองได้ให้นโยบายและกำชับไปแล้วเพื่อให้ข้อมูลลงถึงประชานให้ได้มากที่สุดแต่หน่วยงานของรัฐก็ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ตามที่ตนเองตั้งเป้าไว้

แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นในขณะนี้คือการทำงานดับไฟของเจ้าหน้าที่ถือว่าดับได้เร็วมาก เมื่อมีการแจ้งจุดที่เกิดไฟไหม้ หน่วยงานบางส่วนก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ทั้งนำรถน้ำออกดับไฟบริเวณข้างทาง นำรถโพรยน้ำลดฝุ่น แต่สิ่งที่เราต้องการคือไม่อยากให้มีการเกิดไฟไหม้ขึ้น นั่นคือโจทย์ที่จะต้องเร่งดำเนินการ

ล่าสุดวันนี้ (24 ม.ค.) ได้มีการรับฟังการประชุมทางไกลผ่าน VCS  และหลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้มีข้อสั่งการ เรื่องการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปเนื้อหาในหนังสือสั่งการเพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการปฎิบัติการให้นำเรื่องสาธารณสุข สุขภาพเป็นหลัก รวมถึงสถาการณ์ที่เกิดขึ้นจริง พร้อมกับแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน ดังนี้

1.มาตรการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง(แหล่งกำเนิด)

1.1 ให้สำนักงานขนส่งจังหวัดลำปาง ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง เข้างวดตรวจจับรถควันดำ ตรวจสภาพ/บำรุงยานพาหนะขนส่งสาธารณะ และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล

1.2 ให้ควบคุมการเผาในที่โล่งและพื้นที่การเกษตรอย่างเคร่งครัด โดยรณรงค์และสนับสนุนให้นำเศษวัสดุการเกษตรไปใช้ประโยชน์หรือย่อยสลายด้วยวิธีที่เหมาะสมแทนการเผา สำหรับพื้นที่ที่มีความจำเป็นต้องเผา จะต้องมีมาตรการ จัดระเบียบการเผาตามลักษณะพื้นที่ แบ่งช่วงเวลาให้เหมาะสม และดำเนินการควบคุมให้เป็นไปตามที่กำหนด โดยมีหน่วยงานทำหน้าที่ควบคุมพื้นที่คือ

1.2.1 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่3ลำปาง ควบคุมการเผาในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

1.2.2 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่13ลำปาง ควบคุมการเผาในพื้นที่ป่าอนุรักษ์

1.2.3 สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำปาง ควบคุมการเผาในพื้นที่เขต สปก.และพื้นที่การเกษตร

1.2.4 อำเภอ อปท. ควบคุมการเผาในพื้นที่ชุมชนและอื่นๆ

1.2.5. แขวงทางหลวงลำปางที่1 แขวงทางหลวงลำปางที่2 และแขวงทางหลวงชนบทลำปาง ควบคุมการเผาในพื้นที่ริมทางหลวง

1.3 ให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดลำปาง ร่วมกับ อปท. ที่มีโครงการก่อสร้างในพื้นที่ ดำเนินการป้องกันและควบคุมเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองจากการก่อสร้างโดยติดตามตรวจสอบให้ผู้ประกอบการก่อสร้างดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย มาตรการญและหลักวิชาการ

1.4 ให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง ตรวจสอบและควบคุมการปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยหากมีประเด็นปัยหาร้องเรียนผลกระทบจากมลพิษของดรงงานให้ดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วย

2. มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ
2.1 ให้ทุกหน่วยงาน ติดตาม ตรวจสอบคุณภาพอากาศ โดยใช้ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษและกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งขยายเครือข่ายแจ้งเตือน เพื่อเป็นการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยการประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้ ความเข้าใจให้ประชาชนรับทราบถึงสถานการณ์ที่ถูกต้อง วิธีการปฎิบัติจนในการดูแลรักษาสุขภาพอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง

2.2 ให้อำเภอ และ อปท. สร้างความตระหนักและปรับพฤติกรรมของประชาชน ในการลดการเผาในที่โล่ง พื้นที่การเกษตร และการเผาขยะในชุมชน/เมือง

3. ขอความร่วมมือหน่วยงานราชการ ในการตรวจสอบสภาพรถยนต์ของทางราชการไม่ให้ปล่อยควันดำเกินค่ามาตรฐาน การเปลี่ยนมาใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การดับเครื่องยนต์ขณะจอดในสถานที่ราชการ และกานลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในการเดินทางมาทำงาน เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับประชาชน และภาคส่วนอื่นๆ

4. ให้ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง สร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าใจในข้อกฎหมายที่ถูกต้องและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบการกระทำผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างจริงจัง

5.ให้หน่วยงานรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการข้างต้น ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง ทุกวันพฤหัสบดี

ส่วนสภาพอากาศในตัวเมืองจังหวัดลำปางวันนี้( 24 ม.ค.) กรมควบคุมมลพิษก็ได้รายงานสถาณการณ์คุณอากาศอากาศหรือค่า PM2.5 เวลา 14.00 น. ว่ายังคงเกินมาตรฐาน เป็นพื้นที่สีส้ม ซึ่งเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ติดต่อกันเป็นวันที่ 19 โดย ที่จุดตรวจวัด ต.พระบาท อ.เมือง วัดได้ 83 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือจุดตรวจวัด ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ วัดได้ 69 ไมโครกรัมต่อ ลูกบาศก์เมตร , จุดตรวจวัด ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ วัดได้ 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  และ จุดตรวจวัด ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ วัดได้ 56 ไมโครกรัมต่อ ลูกบาศก์เมตร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้