แม่ทัพภาค3ประชุมติดตามการแก้ปัญหาไฟป่า17จังหวัดภาคเหนือ ย้ำให้บูรณาการไปในทิศทางเดียวกันเพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนพร้อมนำเฮลิคอปเตอร์ตักน้ำดับไฟบนดอยพระบาทที่กำลังเกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สโมสรมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จังหวัดลำปาง

(ชมคลิป) https://www.youtube.com/watch?v=i7KRY1fP3nk&feature=youtu.be  

พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาคผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค3  ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาค ได้เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) และไฟป่าหมอกควัน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ  ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานภาค3 และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์และผลการปฏิบัติการดำเนินงานของ 17 จังหวัดภาคเหนือ ในเรื่องของการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร นครสวรรค์ และ จังหวัดอุทัยธานี

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันของจังหวัดภาคเหนือพบปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ในระยะนี้เกิดจากสภาพความกดอากาศสูง แผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือทำให้อากาศไม่ยกตัวและมีลมจากทิศใต้เข้ามาสะสมตลอดจนสภาพภูมิประเทศในตัวเมืองของจังหวัดภาคเหนือหลายจังหวัดมีสภาพเป็นแอ่งกระทะจึงทำให้ไม่สามารถลอยขึ้นได้ ข้อมูลจุดความร้อนทั้ง 7 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 27 มกราคม 2563 เกิดความร้อนหลายพื้นที่รวมทั้งสิ้น 16,862 จุด ในส่วนของมาตรการทางกฎหมายและการดำเนิน จังหวัดลำปาง และ จังหวัดเชียงใหม่ รวม 39 คดี

จากบูรณาการ ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบโดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกพื้นที่ ได้นำประชาชนจิตอาสาพระราชทาน เข้าร่วมแก้ไขปัญหาในทุกขั้นตอนโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด Single Command การแก้ไขปัญหาเป็นไปในทิศทางเดียวกันซึ่งจะแก้ปัญหาการเผาในพื้นที่โล่งทุกพื้นที่ทางพื้นที่ป่าพื้นที่ทางการเกษตรพื้นที่ชุมชนและพื้นที่สองข้างทางรวมถึงควบคุมปริมาณฝุ่นละอองสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานเพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนในพื้นที่ที่สำคัญ ทุกภาคส่วนต้องสร้างการรับรู้สร้างความเข้าใจให้เกิดความถนัดโดยปรับรูปแบบและสถานการณ์ ให้เข้าใจง่าย เพื่อเป็นข้อมูลเดียวกัน โดยไม่เกิดความสับสนและดำเนินการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความต่อเนื่อง ซึ่งก่อให้เกิดความร่วมมือ ในการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงทีและยั่งยืนต่อไป

จากนั้นในเวลา 16.30 น. ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำวังเฮือ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง เฮลิคอปเตอร์ ปภ.32 จำนวน 2 ลำ   ได้บินมาสูบน้ำที่บริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำเพื่อนำไปฉีดพ่นดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ที่บริเวณป่า บ้านวังหลวง บ้านผาลาด ต.พระบาท อ.เมือง  จ.ลำปาง  โดยการดับไฟป่าครั้งนี้ใช้ชื่อว่า “ปฏิบัติการเขาพระบาท” ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง กองทัพอากาศ และ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งได้มีการฝึกซ้อมการดับไฟป่าในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ โดยได้ปรับแผนจากการฝึกซ้อมมาเป็นการปฏิบัติงานจริงในพื้นที่จังหวัดลำปาง ซึ่งขณะนี้ได้เกิดไฟไหม้ป่า พื้นที่ดอยพระบาท

นอกจากนี้ยังมีเครื่องบิน C130 และเครื่องบินแบบ BT67 ร่วมบินฉีดพ่นน้ำดับไฟป่าในครั้งนี้ด้วย

สำหรับสถานการณ์ไฟไหม้ป่า ในวันนี้ของจังหวัดลำปางยังคงวิกฤติหนัก เนื่องจากยังคงเกิดไฟไหม้ในพื้นที่ป่ากระจัดกระจายหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง  บนดอยพระบาท ฝั่งเขตอำเภอเมือง และ อำเภอแม่เมาะ  โดยเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า (เหยี่ยวไฟ) กำลังดับไฟป่า บริเวณภาคพื้นดินพื้นที่ บ้านวังหลวง  ในเขตอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต   คาดว่ามีความเสียหายบริเวณนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ไร่

ส่วนค่า PM 2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ วันนี้จังหวัดลำปางยังคงเกินมาตรฐานเป็นวันที่ 24 โดยมีค่าเฉลี่ยของ PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดลำปาง อยู่ที่ 90-103 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร     สูงสุดที่ สถานีตรวจอากาศ  ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ วัดได้ 103 ไมโคกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้ในหลายพื้นที่ยังคงปกคลุมไปด้วยหมอกควันไฟป่า ซึ่งการดับไฟป่า เป็นไปด้วยความยากลำบาก   แม้จะระดมกำลังคนเข้าไปดับทางภาคพื้นดินแล้ว  แต่ก็ยังไม่สำเร็จ  โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ต้องร่วมมือกัน การปฏิบัติการเขาพระบาท โดยมีการนำ  เฮลิคอปเตอร์ ไปตักน้ำบริเวณอ่างเก็บน้ำวังเฮือแล้วนำน้ำขึ้นไปดปรยบริเวณยอดดอยพื้นที่บ้านวังหลวง กลางภูเขา บริเวณที่เกิดไฟไหม้ ซึ่งคาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในช่วงค่ำคืนนี้