เกือบชุลมุนหลังตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทำแผนหลังก่อเหตุทำทีเข้าซื้อน้ำอัดลมพอเจ้าของร้านเผลอคว้าขวดน้ำอัดลมที่จะซื้อฟาดก่อนชิงเงินหลบหนี

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 ม.ค.63 ได้เกิดเหตุชิงทรัพย์ที่บริเวณร้านขายของชำอาทิตย์แก๊ส  ตั้งอยู่เลขที่ 211/4  หมู่บ้านสบตุ๋ย ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ลำปาง-เชียงใหม่ ขาเข้าเมืองลำปาง ปากทางเข้าหมู่บ้านสบตุ๋ย โดยคนร้ายเป็นชาย ทำทีเข้าไปซื้อน้ำอัดลมชนิดขวดลิตร ขระที่นำสินค้ามาวางบนโต๊ะเพื่อชำระเงินโดยมีนางนุสรา  ยศกุนา  อายุ  56 ปี เจ้าของร้านนั่งที่ดต๊ะและแจ้งราคา ขระที่นางนุสรากำลังก้มหน้าดูสมุดคนร้ายได้ฉวยโอกาสคว้าขวดน้ำอัดลมที่จะซื้อฟาดนางนุสราจนล้มลงกับพื้นและคนร้ายได้ฟาดอีกหลายครั้งจนขวดกระเด็นหลุดมือขณะนี้นางนุสราก็สู้สุดท้ายคนร้ายชิงเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าไปคาดว่าน่าจะมีเงินสดประมาณ 1-2 พันบาทจากนั้นได้เดินออกจากร้านและขี่จยย.ซึ่งจอดไว้ที่หน้าร้านหลบหนีไป ตามริมถนนสายลำปาง-เชียงใหม่ ซึ่งนางนุสราจำลักษณะและท่าทางของคนร้ายได้ เพราะคนร้ายรายนี้ เคยมาซื้อของที่ร้านบ่อยครั้งคาดว่าจะเป็นนาย  โอ๋ เป็นชาวบ้านหนองห้า  อ.เมือง จ.ลำปาง

ล่าสุดวันนี้ ( 19 ก.พ.63 ) ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง ได้นำตัวนายภานุพงค์ ละออง หรือโอ๋ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่26 หมู่ที่ 10 ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ตามหมายจับของศาลจังหวัดลำปางเลขที่ 20/2563 ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยผู้ต้องหานำ จนท.ไปชี้จุดที่นำจยย.ไปจอด และจุดที่เข้าไปเอาน้ำอัดลมก่อนที่ทำทีจะไปจ่ายเงินและก่อเหตุดังกล่าว โดยผู้ต้องหาได้ยกมือไหว้แล้วก็กล่าวขอโทษกับนางนุสรา พร้อมกับอ้างวันวันที่เกิดเหตุเกิดความเครียดเพราะทะเลาะกับภรรยาและภรรยาได้พาลูกหนีไป ประกอบกับตนเองไม่ได้ทำงานและหาทางออกไม่ได้ จึงก่อเหตุดังกล่าว หลังก่อเหตุได้ขึ้นรถตู้หนีไปที่จังหวัดเชียงใหม่แต่ทนความกดดันจาก จนท.ไม่ไหวจึงเข้ามามอบตัวกับ จนท.ดังกล่าวโดยผู้เสียหายได้บอกว่ายกโทษให้ พร้อมสอนว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก 

ซึ่งระหว่างที่จนท.นำตัวผู้ต้องหาออกมาที่หน้าร้านปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งซึ่งเป็นญาติของผู้เสียหายซึ่งเกิดความโกรธแค้นได้อาศัยจังหวะที่จนท.เผลอปรี่เข้าไปชกผู้ต้องหาไปหนึ่งครั้งจนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า จนท.จึงเข้ามาห้ามและกันตัวออกไป

ทางด้านนางนุสรา ยศกุณา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตอนเกิดเหตุจำเสียงและรูปร่างผู้ก่อเหตุได้เพราะเป็นลูกค้ากันมานาน ตอนนี้ส่วนตัวให้อภัยกับผู้ก่อเหตุแล้ว และขออย่าให้ผู้ก่อเหตุไปทำแบบนี้กับใครอีก และฝากเตือนร้านค้าด้วยกันว่าอย่าเอาเงินทอนมาเก็บไว้ที่ตัวมากนักเพราะไม่รู้ว่าใครจะมาก่อเหตุแบบนี้กับเราเมื่อไหร่ขนาดลูกค้าที่ซื้อขายกันมานานยังก่อเหตุแบบนี้กับคนที่รู้จักกันได้