ชาวบ้านสบเติ๋นเกือบ50คน บุกร้องผู้ว่า จี้สำนักพุทธหยุดการจัดตั้งวัด หลังพระต่างถิ่นเข้ามาอยู่อาศัยบริเวณป่าชุมชน มีบุคคลภายนอกนำเอกสารปลอมยื่นขอตั้งเป็นวัด และก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆในพื้นที่ป่า

Last updated: 22 ก.ค. 2563  |  1319 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ชาวบ้านสบเติ๋นเกือบ50คน บุกร้องผู้ว่า จี้สำนักพุทธหยุดการจัดตั้งวัด หลังพระต่างถิ่นเข้ามาอยู่อาศัยบริเวณป่าชุมชน มีบุคคลภายนอกนำเอกสารปลอมยื่นขอตั้งเป็นวัด และก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆในพื้นที่ป่า

 

 

วันนี้ที่บริเวณมุขด้านหน้าศาลากลางจังหวัดลำปาง นางจันทร์ศรี วงค์อ้าย ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วย นายสมเพชร ชนะสงคราม นางสาวสุกาญดา พันธ์ธง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน บ้านสบเติ๋น ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ประมาณ 50 คน พร้อมป้ายผ้าเขียนข้อความร้องเรียนให้มีการเพิกถอนสำนักสงฆ์ถ้ำเทพอุดมมงคลออกจากป่าและถ้ำแม่เติ๋น ยุติการสร้างเป็นวัด ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่างๆออกจากพื้นที่ป่าเพื่อฟื้นฟูให้เป็นป่าต้นน้ำแม่เติ๋นดั่งเดิม พร้อมกับยื่นหนังสือเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางและสำนักพระพุทธศานา ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารต่างๆที่มีผู้แอบอ้างนำไปขอจัดตั้งเป็นวัดต่อสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง และ ให้ยุติการยกสำนักสงฆ์ถ้ำเทพอุดมมงคลขึ้นเป็นวัด และเพิกถอนสำนักสงฆ์ถ้ำเทพอุดมมงคลออกจากป่าชุมชนบ้านสบเติ๋นโดยเร็ว เพราะไม่เคยมีการจัดทำประชาคมขอความเห็นชอบจากชาวบ้านสบเติ๋นให้สร้างเป็นวัด มีการสร้างเอกสารหลักฐานเท็จ โดยการนำเอกสารรายชื่อชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุมประจำเดือนของหมู่บ้านไปขอแนบขออนุมัติจัดตั้งเป็นวัด มีการปลอมลายเซ็นต์ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน(ขณะนี้)และทำบันทึกประชุมประจำเดือนปลอมนำไปแนบขออนุมัติจัดตั้งเป็นวัด

โดยเรื่องดังกล่าวชาวบ้านได้แจ้งความไว้ที่ สภ.แม่เมาะ และได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปางหลายฉบับ แต่ไม่มีการตอบรับหรือดำเนินการใดๆ

และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางและสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง ตรวจสอบและเอาผิดทางกฎหมายกับผู้ที่จัดทำเอกสารเท็จในการขอยกสำนักสงฆ์ถ้ำเทพอุดมมงคลขึ้นเป็นวัดเสนอต่อสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปางและหน่วยงาานที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้มีนายสุรพล บุรินทราพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้มาพูดคุยและสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะมอบหมายให้นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำปาง เป็นผู้แทนรับหนังสือ และ ตัวแทนสำนักพระพุทธศสนาจังหวัดลำปางรับมอบหนังสือจากผู้ใหญ่บ้านบ้านสบเติ๋น

ทั้งนี้ตัวแทนสำนักพระพถทธศาสนาจังหวัดลำปางระบุว่า ที่ผ่านมาหลังมีการขอจัดตั้งวัด ทางสำนักพุทธฯก็ได้มีการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งมีชาวบ้านร้องเรียนมา2รอบ จึงได้มีการแจ้งไปยังคณะสงฆ์จังหวัดลำปาง ถึงพฤติกรรมของพระ และขอให้ตรวจสอบ และกรณีที่ ที่พักสงฆ์ถ้ำเทพอุดมมงคล ก็ระบุไปว่าขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ทางสำนักพุทธฯก็แจ้งไปว่า ที่พักสงฆ์ถ้ำเทพอุดมมงคลที่ตั้งอยู่ตรงด้านหน้าป่าชุมชนบ้านสบเติ๋นในขณะนี้ไม่มีชื่ออยู่ในทำเนียบที่พักสงฆ์ของสำนักพุทธฯ และได้ตรวจสอบว่าพระสงฆ์ที่อยู่ในบริเวณที่ทำการป่าชุมชนบ้านสบเติ๋นให้ย้ายเข้าไปสังกัดหรือไปรายงานตัวต่อเจ้าคณะปกครองสงฆ์ เพื่อให้ยืนยันตัวตนก่อน และได้รายงานไปยังเจ้าคณธตำบล อำเภอ จังหวัดแล้วเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระสงฆ์จึงต้องรายงานคณะผู้ปกครองสงฆ์ ส่วนพระและแม่ชีที่พักอยู่ในพื้นที่ป่าชุมชนบ้านสบเติ๋นให้ย้ายออกจากพื้นที่

ส่วนการดำเนินต่อจากนี้ชาวบ้านให้เวลา15 วันเพื่อทราบความคืบหน้าเป็นระยะ และระหว่างนี้ขอให้มีการปิดพื้นที่ที่มีปัญหาโดยห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้า-ออก จนกว่าจะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวตามที่ชาวบ้านร้องขอได้

จากการตรวจสอบบริเวณที่ตั้งของถ้ำสบเติ๋นพบว่าจากหมู่บ้านลัดเลาะไปตามทางรถไฟเข้าไปในพื้นที่ป่าด้วยถนนทางธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดของป่า พบว่าบริเวณดังกล่าวเหนือหน้าผาซึ่งมีปล่องถ้ำยังคงมีต้นไม้ขนาดจำนวนมากซึ่งถือว่ายังคงเห็ฯสภาพป่าที่สมบูรณ์ แต่ด้านล่างที่ไม่มีต้นไม้อยู่แต่มีการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ มีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ซึ่งเป็นอาคารถาวรอยู่บนหินผา รวม2 จุด และมีการก่อสร้างคล้ายที่พักขนาดเล็ก เรียงรายบนหินผาอีกประมาณ 3-4 จุด และด้านล่างมีการก่อสร้างที่พัก ห้องน้ำ ฯลฯ กระจายในพื้นที่ ด้วย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้