เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.เศษ วันนี้ ที่วัดแม่เฮียว ตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางพร้อมด้วยนายก่อพงษ์ โกมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นางภัชธนิตา สดุดีพศิน ผู้ตรวจราชการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 และ 15 นายชัยธวัช ศิวบวร หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จ.ลำปาง นายประภาส อึ้งตระกูล นายอำเภอวังเหนือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยกู้ภัยสว่างนครลำปาง ได้นำสิ่งของถุงยังชีพมามอบให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านแม่เฮียว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากสถาการณ์น้ำป่าไหลหลากในช่วงระหว่างวันที่2-3 ส.ค.ที่ผ่านมาจากพายุชินลากู เนื่องจากน้ำที่ไหลจากอ่างเก็บน้ำแม่เฮียวไหลทะลักขึ้นท่วมบ้านเรือของชาวบ้านที่อยู่ริมลำห้วยเสียหายหนักรวม5หลัง รั้วกำแพงคอนกรีตพังทะลาย พืชผลทางการเกษตรที่อยู่ริมลำห้วยถูกน้ำป่าซัดหายไปทั้งหมด ต้นไม้หักโค่น และบ้านเรือนชาวบ้านบางหลังยังเป็นผู้ยากไร้ด้วย


หลังจากนั้นทางคณะได้เดินสำรวจบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ริมลำห้วย ที่เหลือซากปักหักพังของรั้ว กำแพงและบ้านเรือนและบริเวณบ้านที่มีซากเศษสวะดินโคลนไหลมาสะมสมจำนวนมาก ทางผู้นำท้องถิ่นต้องใช้รถน้ำมาช่วยทำการฉีดล้างออก แต่ยังคงเหลืออีกจำนวนมากซึ่งต้องใช้เครื่องจักรมาทำการดันต้นไม้ กิ่งไม้ ดินโคลนออกไป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกหลายวัน ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้ย้ำให้ทางท้องถิ่นเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นการเร่งด่วน



ยายพรศรี คนมาก อายุ 59 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ติดริมห้วยแม่ฌฮียว และเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้และเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันเล่าว่า เมื่อวันก่อนประมาณ10โมงเช้า หลังทานข้าวเสร็จน้ำก็เริ่มมาแต่ไม่มาก หลังน้ำลดก็เร่งกวาดทำความสะอาด แต่หลังจากนั้นไม่นาน น้ำได้ไหลทะลักมาจำนวนมากมาอย่างรวดเร็ว เหมือนเขื่อนแตก เมื่อเห็นก็รีบตะโกนบอกกันว่าน้ำมาแล้วต่างคนต่างวิ่งหนีขึ้นไปที่สูง และกระแสน้ำมาแรงมากซัดเสาไฟฟ้าล้มหลายต้น ต้นไม้ กำแพงพังระเนระนาดเสียงดังสนั่น ตนเองก็รีบเก็บของได้บางอย่างก็รีบหนีขึ้นไปด้านบน ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเจอที่น้ำมามากและแรงขนาดนี้ ต้องวิ่งหนีจนปวดเข่าไปหมด คือ ณ เวลานั้นต่างคนต่างวิ่งตะโกนบอกกันให้เก็บของเท่าที่เก็บได้ แล้ววิ่งหนีทำได้แค่นั้น ข้าวเปลือกที่หนักก็จมน้ำเพราะเก็บไม่ทันเสียหายหมด

และด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและไหลมาจำนวนมากทำให้น้ำกัดเซาะคอสะพานข้ามหมู่บ้านขาดเสียหายใช้งานไม่ได้ ซึ่งหากมีฝนตกมาอีกระลอกและน้ำในอ่างแม่เฮียวล้นและไหลมาอีกคาดว่าสะพานแห่งจะถูกน้ำซัดพังทะลายอย่างแน่นอน
สรุปความเสียหายเบื้องต้นมีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย 4 อำเภอ 13 ตำบล 73 หมู่บ้าน 3,133 ครัวเรือน ประกอบด้วย
อำเภอแจ้ห่ม 3 ตำบล 19 หมุ่บ้าน 1,797 ครัวเรือน
อำเภอวังเหนือ มีสิ่งสาธารณะประโยชน์ อาทิ สะพานได้รับความเสียหาย และ พื้นที่ทางการเกษตร เสียหายรวม 5 ตำบล 31 หมู่บ้าน น้ำท่วมบ้านเรือนที่พักอาศัยได้รับความเสียหาย 8 หมู่บ้าน 383 ครัวเรือน
อำเภอเมืองปาน 1 ตำบล คือ ตำบลหัวเมือง 8 หมู่บ้าน 694 ครัวเรือน
อำเภองาว 4 ตำบล 15 หมู่บ้าน 259 ครัวเรือน



