ยอมสึกแล้ว พระไลน์จีบครู พร้อมขอมาในสิ่งที่ตนเองได้ล่วงเกิน

Last updated: 2 ก.ย. 2563  |  1118 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ยอมสึกแล้ว พระไลน์จีบครู พร้อมขอมาในสิ่งที่ตนเองได้ล่วงเกิน

ความคืบหน้ากรณีพระแซทไลน์จีบครูสาวที่สอนตัวเอง พร้อมกับส่งข้อความ คลิปอนาจารต่างๆไปให้ จนครูสาวแจ้งความไว้แล้วถึง2คดี และเมื่อตรวจสอบในทางสื่อออนไลน์ยังพบว่าที่ผ่านมาอดีตพระอำพลได้สร้างโลกไว้2ใบ ใบแรกในสถานะเป็นพระสงฆ์ไลฟ์สอนธรรมะและกิจกรรมของวัด และโลกใบที่2 เป็นฆารวาสเป็นยูทูปเบอร์ไลฟ์และโพสต์เกี่ยวกับทางโลก เรื่องของสังคมต่างๆมากมายรวมถึงคลิปแอบถ่ายผู้หญิง และสิ่งที่ไม่เหมาะสมลงในโลกออนไลน์ด้วย

ล่าสุดเมื่อเวลา17.30 น.ที่ผ่านมา พระอำพล สุชาโต ได้เดินทางจากจังหวัดเชียงรายมาถึงที่วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม พระอารามหลวง พบกับพระจินดารัตนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดลำปาง ซึ่งทางพระจินดารัตนาภรณ์ ได้สอบถามถึงที่มาที่ไปของเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมขอดูใบสุทธิ ซึ่งพบที่แท้จริงแล้วพระอำพลได้บวชที่วัดห้วยคิงเมื่อปี 2550 และ หลังจากนั้นก็ไปอยู่ที่ กทม. โดยเข้าสังกัดวัดวิมุตยาราม ตำบลบางอ้อ อำเภอบางพลัด กรุงเทพมหานคร ในปี 2556 จนถึงปัจจุบันก็ยังคงสังกัดที่เดิม ส่วนที่มาอยู่ในพื้นที่จังหวัดลำปางเนื่องจากมาเรียนหนังสือเท่านั้น และที่ผ่านมาได้ไปจำพรรษาที่พุทธสถานจังหวัดเชียงราย

ซึ่งพระจินดารัตนาภรณ์ ได้ให้ข้อคิดหลายอย่าง และเตือนสติ ซึ่งในตอนแรก พระอำพลจะยังไม่สึกในวันนี้โดยอ้างว่ายังไม่ได้เตรียมตัว ยังไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าขออยู่ต่อก่อน2-3 วันแล้วจะมาลาสิขา แต่พระจินดารัตนาภรณ์ ได้บอกว่าขอให้พระอำพลสละความสุขส่วนตัวเพื่อความสุขของผู้อื่นให้เห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวมภาพลักษณ์ของส่วนรวม ซึ่งหลวงพ่อในฐานะผู้บริหารของคณะสงฆ์ก็ต้องปฎิบัติเสมอเหมือนกันหมด ขอความเห็นใจจากท่าน หากเราไม่ทำแบบนี้เพื่อเป็นบรรทัดฐานของสังคม ต่อไปเรื่อยๆคนนั้นทำได้ คนนี้ทำได้ การปกครองจะอ่อนแอส่วนเมื่อสึกไปแล้วก็ยังสามารถไปต่อสู้กับคดีทางโลกให้เสร็จเมื่อเสร็จเรียบร้อยหากจะกลับมาบวชก็ยังสามารถกลับมาได้ และได้สอบถามถึงที่อยู่พระอำพลก็บอกว่ายังมีบ้านอยู่ที่เชียงรายที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้แต่ไม่มีญาติพี่น้อง



จากนั้นพระอำพลก็ยินยอมลาสิกขา โดยมีพระเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดลำปางเป็นผู้ช่วยบอกบทลาให้ พร้อมกับนำชุดขาวมาให้เปลี่ยน พร้อมมอบปัจจัยให้จำนวนหนึ่งเพื่อนำไปซื้อเสื้อผ้าและเป็นค่าเดินทาง พร้อมได้สอนให้มีสติ ไตร่ตรอง นำความรู้ที่มีไปใช้ในการประกอบอาชีพ เพราะเชื่อว่าเป็นคนที่มีฝีมือในด้านเทคโนโลยีและขอให้นำไปใช้ในทางที่ถูกต้อง

หลังจากลาสิขาแล้วนายอำพลก็ได้กราบขออภัยพระสงฆ์และทุกคนที่เกี่ยวข้องที่ตนเองได้กระทำสิ่งใดก็ตามที่เป็นการเสื่อมเสียในวงการพระพุทธศาสนา หลังจากนี้ก็จะไปต่อสู้คดีที่มีอยู่และก็คงจะกลับบ้านที่เชียงราย

จากนั้นเมื่อนายอำพล ได้กราบลาพระจินดารัตนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดลำปาง เพื่อไปขอพำนักที่วัดศรีชุม ซึ่งเป็นวัดที่ปรึกษาของนายอำพลก่อนหน้านี้ ครูสาวได้เดินทางมาที่วัด นายอำพล ได้เข้าไปกราบขอขมาที่ได้ล่วงเกินและขอให้ครูเมตตาให้อภัยในสิ่งที่ตนเองได้ทำไป โดยครูสาวได้รับไหว้และได้กล่าวและสอบถามอีกครั้งว่าขณะนี้รู้สำนึกและได้สติแล้วใช่หรือไม่ หากมาขอขมานั้นต้องออกมาจากใจหากเป็นเช่นนั้นตนเองก็ขออโหสิกรรมให้ทั้งหมด ส่วนเรื่องคดีก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และฝากว่าอย่าได้ล่วงเกินครูบาอาจารย์ในลักษณะนี้อีก สิ่งไหนที่ทำไม่ดีก็ให้เลิก ให้หยุด ให้ลบคลิปที่ไม่ดีต่างๆที่ทำให้อาจารย์ สถาบันเสียหายออกไป และขอให้เข้าใจใหม่ว่าการที่อาจารย์พูดดีด้วยกับลูกศิษย์ก็เป็นแบบนี้ทุกคนไม่ใช่ว่าอาจารย์จะมีใจให้ ซึ่งนายอำพลก็ตอบว่าครับเข้าใจแล้ว ซึ่งจากนั้นครูก็ได้ถามสารทุกข์ของนายอำพลพร้อมย้ำว่าต่อไปนี้จะทำอะไรขอให้มีสติคิดให้มากๆและอย่าทำผิดลักษณะนี้อีกและขอให้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคม

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้