ศาลจังหวัดลำปางอนุมัติหมายจับ เจ้าของร้านติดตั้งเครื่องเสียงลำปาง หลังหลอกลูกค้าโอนเงิน พบรถถูกนำไปจำนำกว่า 17 คัน

วานนี้ ( 11 พ.ย.) ศาลจังหวัดลำปาง ได้อนุมัติหมายจับ ที่ 172/2563 ลงวันที่ 11 พ.ย.2563 นายศุภกฤต ผ่องภักดิ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 ม.8 ต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ลำปาง  ในฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน หลัง ร.ต.อ.สายัน มณีแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง ได้นำพยานหลักฐานเพื่อขอให้ศาลออกหมายจับกรณีมีผู้เสียหายจากหลายจังหวัดในภาคเหนือ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนังานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เนื่องจากผู้เสียหายได้นำรถยนต์ ไปติดตั้งเครื่องเสียง กับนายศุภกฤต ผ่องภักดิ์ ที่ได้โฆษณาจำหน่ายเครื่องเสียงในราคาโปรโมชั่นถูกกว่าท้องตลาด ผ่านทางเฟสบุ๊ค ชื่อ“ลัคกี้อินดี้ซาวด์” และ “ธวัชชัย คาร์ออดิโอ” ทำให้กลุ่มผู้เสียหายสนใจและตกลงสั่งซื้อเครื่องเสียง โดยได้มีการโอนเงินค่าเครื่องเสียงให้ก่อน จากนั้นจึงนำรถส่งมอบให้นายศุภกฤต เพื่อนำติดตั้งเครื่องเสียง แต่เมื่อครบกำหนด นายศุภกฤตไม่ได้นำรถส่งคืน ผู้เสียหายได้พยายามติดตามทวงถาม และขอยกเลิกการติดตั้งเครื่องเสียง และขอให้นายศุภกฤต จ่ายเงินคืนพร้อมส่งมอบรถคืน แต่นายศุภกฤต  ไม่คืนเงิน และ ไม่ยอมส่งมอบรถคืน และพยายามบ่ายเบี่ยงและเลื่อนนัดส่งมอบรถคืนมาโดยตลอด ทำให้ผู้เสียหายต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ในข้อหาฉ้อโกง และ ยักยอกทรัพย์ พร้อมได้แจ้งความรถหายไปแล้ว

ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางกลุ่มผู้เสียหายได้รสมกลุ่มกันพยายามออกตามหารถ จึงพบว่ารถหลายคันถูกนำไปขายในเพจตลาดมืด รถหลุดจำนำ ซึ่งผู้เสียหายต้องเสียเงินในการขอล่อซื้อรถของตัวเองกลับมาได้จำนวน 2 คัน และบางคันเจ้าของเพจไหวตัวทันไม่ยอมนำรถมาขายตามที่ตกลงไว้ และรถได้หายไปจากเพจ จึงทำให้ตามหาไม่ได้ และนอกจากนนี้ยังพบว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่มได้พยายามนำรถของผู้เสียหายไปเปลี่ยนแปลงสภาพตามอู่ซ่อมรถยนต์ แต่เม่ือเจ้าของอู่ทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถที่ถูกแจ้งหายไว้จึงไม่รับทำ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถติดตามรถที่หายกลับคืนมาได้แม้แต่คันเดียว ส่วนตัวนายศุภกฤตแม้ทางเจ้าหน้าที่จะพยายามบอกว่ายังสามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้แต่ก็ไม่สามารถติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีหรือนำตัวกลับมาเพื่อนำตัวไปติดตามหารถผู้เสียหายได้เช่นกัน ขณะที่ผู้เสียหานพยายามติดต่อไลน์ของนายศุภกฤตเพื่อทวงถามรถ แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงและให้เหตุผลเดิมๆคือ เดี่ยวจะคืนให้ ขอแก้ปัญหาของตัวเองก่อน และไม่ยอมบอกว่านำรถของผู้เสียหายไปไว้ที่ไหน สุดท้ายยังได้พูดในลักษณะขอเงินกับผู้เสียหายเพื่อจะกลับไปเคลียร์ปัญหาให้อีก

สำหรับรถยนต์ของผู้เสียหายที่ยังตามหาไม่พบในขณะนี้ยังเหลือไม่ต่ำกว่า 17 คัน และยังคงมีผู้เสียทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มอีก หากผู้ใดพบเห็นผู้ต้องหา และ รถยี่ห้อ ทะเบียน ลักษณะตามภาพที่ปรากฎ ช่วยแจ้งมายังกลุ่มผู้เสียหายที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-4117-3032