หนุ่มแจ้ห่มร้องสื่อ-ถูกตำรวจหลอกซื้อดาวน์รถ-จ่ายงวดเดียวก่อนเชิดรถหาย-ร้องเรียนผู้บังคับบัญชาหลายแห่งเรื่องเงียบ

นายวสันต์ แปลกปลาด หรือ แบ้งค์ อายุ 30 ปี ชาวบ้านตำบลแม่สุก อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง พร้อมด้วยภรรยาและญาติเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าว หลังถูกบริษัทไฟแนนซ์รถยนต์ ฟ้องดำเนินคดีหลังจากไม่ชำระค่าเช่าซื้อ สาเหตุจากได้ขายดาวน์รถคันดังกล่าวให้กับตำรวจนายหนึ่งในราคา 40,000 บาท โดยได้ทำสัญญาซื้อ-ขายกันไว้ และผู้ซื้อได้ชำระค่างวดต่อเพียง1วงด จากนั้นก้ไม่ยอมส่งต่อและไม่ยอมคืนรถ จนล่าสุดไม่สามารถติดต่อผู้ซื้อได้แม้จะเข้าร้องเรียนกับผู้บังคับบัญชาหลายแห่งแล้วก็ตาม

แบ้งค์ ได้ให้ข้อมูลว่า ตนเองเป็นคนลำปางและไปทำงานรับจ้างส่งของที่บริษัทฯในกรุงเทพฯ เพื่อความสะดวกตนเองจึงได้ซื้อรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว้ ตอนเดียว ทะเบียน บล 4919 พระนครศรีอยุธยา 1 คัน และนำมาต่อเติมเป็นตู้ทึบเพื่อเก็บสินค้า ซึ่งตนเองจะต้องผ่อนค่างวดอีก 38 งวด งวดละ 11,494 บาท ต่อมาช่วงโควิดตนเองมีงานน้อยลงจึงผ่อนส่งไม่ไหว ได้นำรูปรถประกาศขายดาวน์หน้าเฟสบุ้ค ประมาณช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2563 ต่อมาได้มีผู้ใช้เฟสบุ้คว่า “ตัว คนเดียว” ทักเข้ามาสอบถามรายละเอียด โดยแนะนำตัวเองว่าชื่อ หมู่โจ เป็นตำรวจ อยู่ สภ.บางกรวย กทม. และอยากได้รถไปให้ลูกน้องใช้งาน

จากนั้นวันที่ 19 ก.ค.63 จึงให้ตนเองนำรถไปให้ หมู่โจ หรือ ส.ต.ท.จิตเกษม (ขอสงวนนามสกุล) ที่ สภ.บางกรวย กทม. ซึ่งหมู่โจ ก็ทำงานอยู่ที่นั้นจริง จึงเชื่อว่าน่าจะซื้อจริง จึงได้ตกลงทำสัญญาซื้อ-ขายกัน โดยตนเองได้รับชำระค่าเงินดาวน์40,000 บาท และผู้ซื้อตกลงจะชำระค่างวดต่อไป โดยหมู่โจขอเวลา 1 เดือน เพื่อรวบรวมเอกสารนัดตนเองไปเปลี่ยนชื่อในสัญญาเช่า-ซื้อ กับบริษัทไฟแนนซ์  ตนจึงส่งมอบรถให้ หลังจากนั้นผ่านไป1เดือน หมู่โจได้ชำระค่างวดให้กับบริษัทฯ 1 เดือน จากนั้นก็ไม่ยอมชำระอีกเลย จนกระทั่งบริษัทฯได้โทรติดตามทวงถาม ตนเองพยายามติดต่อทางไลน์ โทรศัพท์ ในช่วงแรกก็ติดต่อได้และบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จนกระทั่งไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

ตนเองได้ไปติดตามทวงถามที่ สภ.บางกรวย แต่ก็ไม่พบตัวที่ทำงาน ได้ทำหนังสือร้องเรียนผู้บังคับบัญชา และได้ทำหนังสือร้องเรียน ซึ่งเบื้องต้น ผู้บังคับบัญชาก็บอกเพียงว่าจะเรียกตัวมาไกล่เกลี่ยให้แต่หมู่โจก็ไม่มา และ จนท.ก็ไม่รับแจ้งความ  ตนเองต้องเข้าร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ไปร้องเรียนที่กองกำกับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค1 เพราะ สภ.บางกรวยอยู่ในเขตพื้นที่ของ ตำรวจภูธรภาค1 จากนั้นก็ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมนนทบุรี ได้ประมาณครึ่งเดือนมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาให้ตนเองก็เข้าไปแจ้งความ ซึ่งตนก็เดินทางไปที่ สภ.บางกรวยอีกครั้ง ครั้งนี้เจ้าหน้าที่รับแจ้งความ โดยแจ้งในข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บอกว่าก่อนหน้านี้ ได้มีเจ้าทุกข์ในลักษณะเดียวกันเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.อื่นด้วยอีกหลายคน จากนั้นก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเพราะเท่าที่ตนเองไปติดตามความคืบหน้าของคดีปรากฎว่าหมูโจไม่เข้ามาทำงานเลย  จนกระทั่งตนเองถูกบริษัทไฟแนนซ์รถยนต์ฟ้องดำเนินคดี

แบ้งค์ ได้บอกอีกว่าขณะนี้รู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่งเพราะกลัวว่ารถของตนเองจะถูกขายต่อหรือนำไปจำนำแล้ว แต่ก็อยากฝากถึงหมู่โจว่าขณะนี้ตนขอให้เอารถมาคืนก็พอ เพราะอย่างน้อยก็จะยังขายต่อได้และจะได้นำเงินมาชำระไฟแนนซ์ มิฉะนั้นตนเองก็จะต้องหาเงินมาผ่อนชำระให้กับบริาัทอีกเดือนละกว่าหมื่นบาทขณะนี้เดือดร้อนมาก งานก็น้อย เงินก็ลด ครอบครัวเดือดร้อนมาก ขณะที่ญาติของแบ้งคืก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากให้นำรถมาคืน เป็นถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่กับมาเป็นเหมือนคนร้ายเสียเอง มาสร้างความเดือดร้อนให้กับคนที่หากินด้วยความบริสุทธิ์และอยากฝากถึงผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยเพราะมิฉะนั้นก็เท่ากับส่งเสริมให้ลูกน้องของตัวเองทำผิดต่อไปเรื่อยๆ และอยากฝากถึงผู้ที่เคยถูกตำรวจนายนี้หลอกในลักษณะเดียวกันเข้าแจ้งความเพื่อจะได้ช่วยเหลือกันในการนำคนผิดมาดำเนินคดีโดยเร็วต่อไปเพื่อจะได้ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นๆอีก

 จากการตรวจสอบเฟสบุ้คของตำรวจนายดังกล่าวพบว่า เพิ่งเปิดเมื่อเดือน มกราคม 2563 และมีเพื่อนเพียง242คน ไม่มีการเปิดสาธารณะ และไม่มีไทม์ไลน์ใดๆเลยนอกจากรูปเพียง2รูปเท่านั้น