ชาวบ้านทุ่งโป่งตบเท้าขอพบผู้ว่าฯ ขอยกเลิกคำสั่งยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็กของหมู่บ้าน

         วันนี้ที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง พระสมชาติ ญาปญโญ พร้อมด้วยนางฟองคำ ลาภมาก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่1 บ้านทุ่งโป่ง และชาวบ้านในพื้นที่กว่า 20 คน ได้เดินทางมาขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมเขียนป้ายผ้าเพื่อบอกว่าโรงเรียนบ้านทุ่งโป่งเป็นของชาวบ้าน จะไม่ยอมให้มีการยุบโรงเรียนเด็ดขาด โดยมีพระอาจารย์สาธิต ธีรปัญโญ ผอ.สถาบันธรรมาภิวัฒน์ มาให้กำลังใจ และยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเพื่อขอพิจารณาการยุบรวมโรงเรียนบนทุ่งโป่ง โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ และ นายจําลักษ์ กันเพ็ชร์ เป็นผู้มารับเรื่อง 

         ทั้งนี้เนื้อหาในหนังสือระบุว่าตามที่ประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย จากบนทุ่งโป่ง หมู่ที่ 1 ตำบลมืองปาน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ได้ยื่นหนังสือขอความป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมอำภอเมืองปาน เมื่อวันที่ 4 มีถุนายน 2563 กรณีการยุบรวมโรงเรียนบนทุ่งโป่ง ไปรวมโรงรียนบ้านแพะที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในการขอมติประชาคมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ระบุว่า โรงเรียนบ้านดอนแก้ว และโรงรียนบ้านน้ำจำ ก็จะไปเรียนรวมกันที่โรงเรียนบนแพะ แต่ในข้อก็จจริงสองโรงรียนดังกล่าวไม่ได้ทำแผนไปเรียนรวมแต่ประการใด

         จากการที่ทางอำเภอมืองปานรับเรื่องและไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ตามลำดับ มีการขอมติจากผู้มีส่วนได้เสียในบนทุ่งโป่ง หมู่ที่1 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563 มีมติให้ทบทวน ไม่ไปเรียนรวมถึง 98.2% แต่จากการรอคอยของชาวบ้นไม่พบว่าทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต3 มาลงพื้นที่เพื่อทำการทบทวนแต่ประการใด และต่อมาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2564 ทางสำนักงานเขตฯ ได้มาแจ้งให้ผู้ปกครองนักรียนโรงรียนบ้านทุ่งโป่ง รับทราบว่าโรงเรียนบนทุ่งโป่ง ต้องยุบรวมไปเรียนรวมกับโรงเรียนบ้านแพะ ตามประกาศ ลงวันที่ 29 มกราคม 2564 ทำให้ประชาชนผู้มีส่วนได้เสียในรื่องนี้เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างโปร่งใส ไม่มีการทบทวนรื่องดังกล่าวตามที่ชาวบ้านร้องขอ และตามที่ทางอำกอได้ดำเนินการ ไก่ลเกลี่ย

         เพื่อป็นการติดตามหาข้อสรุปในรื่องนี้ จึงรียนมาพื่อขอสำเนาอกสารในการดำเนินการเรื่องดังกล่าวจากศูนย์ดำรงค์ธรรมอำภอเมืองปาน ตามกระบวนการที่ทางศูนย์ดำรงค์ธรรมได้ดำเนินการไปแล้ว เพื่อประกอบการอุทรณ์ ประกอบการยกเลิกคำสั่งดังกล่าวของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 3 ต่อไป

             ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางรับปากว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าประชุมกับคณะกรรมการจังหวัดโดยด่วนเพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว ขณะที่พระสมชาติ กล่าวว่าตนเองได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอดและที่ผ่านมาได้จัดทำโครงการเดินธรรมจาริกเพื่อขอรับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับโรงเรียน เพราะชาวบ้านต้องการให้วัดที่อยู่กับชาวบ้านต่อไป เนื่องจากโรงเรียนแห่งนี้เกิดจากแรงศรัทธาของชาวบ้านทั้งร่วมกันบริจาคที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนแห่งนี้ แต่เมื่อทางเขตฯระบุว่าต่อไปโรงเรียนจะต้องอยู่ในการดูแลของโรงเรียนบ้านแพะ ชาวบ้านเห็ฯว่าไม่ถูกต้อง เพราะเคยมีการลงประชาคมกันไปแล้วว่าจะไม่ย้ายไปรวม และโรงเรียนแห่งนี้ก็สรา้งขึ้นโดยแรงศรัทธาของชาวบ้าน ซึ่งจากการพูดคุยกับชาวบ้าน ชาวบ้านพร้อมจะหาทุนทรัพย์มาสนับสนุนทั้งเรื่องการบริหารจัดการ การจ้างครูมาสอนและเรื่องอื่นๆให้กับโรงเรียนเอง เพียงเพื่อให้บ้าน วัด โรงเรียน ยังคงอยู่เช่นเดิมต่อไป