



นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดลำปาง ได้ออกคำสั่งด่วนที่สุด มาตรการเร่งด่วนในการควบคุมการเดินทางเข้ามายังพื้นที่จังหวัดลำปาง เพื่อป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากชาวงเวลาที่ผ่านมาพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และผู้ป่วยกระจายตัวออกไปหลายพื้นที่ ซึ่งจากการสอบสวนโรคพบว่าการระบาดในครั้งนี้ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ได้เข้าใช้บริการของสถานบันเทิงประเภทต่างๆ จาก กทม. ปริมณฑล และจังหวัดเชียงใหม่ โดยที่มิได้แสดงอาการของโรคอย่างเด่นชัดและได้แพร่โรคออกไปยังผู้สัมผัสใกล้ชิด และที่ผ่านมาได้ออกคำสั่งต่างๆไปบางส่วนแล้วนั้น
วันนี้ได้มีการออกประกาศโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำปาง ในคราวประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำปาง ครั้งที่12/2564 เพิ่มเติมดังนี้
1. ให้บุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการตรวจพบการระบาดและมีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคสูงรวมทั้งพื้นที่ที่มีการแพทยระบาดในลักษณะกลุ่มก้อนและเมื่อเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดลำปางจะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
1.1รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่โดยทันทีโดยไม่ปกปิดข้อมูลทำลายในการเดินทางเพื่อพิจารณากันกลองความเสี่ยงต่อการก่อกำเนิดโลกและให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
1.2บุคคลที่จะต้องกับตัวเองที่บ้านที่พักอาศัยหรือปฏิบัติการนอกสถานที่ตั้งเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วันและหากสงสัยหรือมีอาการใดใดผิดปกติให้ติดต่อบุคลากรทางการแพทย์ทันทีรวมถึงต้องปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขที่ประกาศอย่างเคร่งครัด
1.3ให้อำเภอและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้กลไกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำนันผู้ใหญ่บ้านผู้นำชุมชนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพื้นที่หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านช่วยกันสอดส่องดูแลติดตามและเฝ้าระวังกรณีประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่อย่างใกล้ชิดด้วยโดยให้อำเภอและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรายงานผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดลำปางให้จังหวัดลำปางทราบทุกวัน (จนถึงวันที่ 12 เมษายนมีผู้เข้ามาในจังหวัดลำปางแล้ว 5,043 ราย)
หาผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามระวังโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 และอาจจะได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ทุกเฉินพ.ศ. 2548 ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกินสองปีปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ปิดจังหวัดแต่อย่างใด