ตำรวจรวบ7ผู้ต้องหาชาวสุพรรณบุรี-ลอบขนไอซ์ล็อตใหญ่600กิโลกรัม

วันนี้ที่ห้องประชุม1 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5  พร้อมด้วยนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย   พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5  พร้อมด้วย       พล.ต.ต.นันทวิทย์ เทียมบุญธง ผบก.ภ.จว.ลำปาง   พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว รอง ผบก ภ จว ลำปาง    พลตรี อโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหา 7 คน พร้อมของกลางยาเสพติด (ยาไอซ์) 600 กิโลกรัม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก และ ส่วนที่เกี่ยวข้อง จับกุมและตรวจยึดได้ เมื่อเช้ามืดของวันที่ วันที่ 19 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ก่อนจะทำการขยายผลและนำมาสู่การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันนี้ โดยการแถลงข่าวได้มีการจัดสถานที่ให้เจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนเว้นระยะห่างและจำกัดจำนวนสื่อมวลชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย

ทั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากภาคเหนือลงสู่ภาคกลาง โดยมีการแจ้งแบะแสรถยนต์ไว้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีประสานงานตามจุดตรวจต่างๆเพื่อตรวจสอบทะเบียนรถยนต์แบบอัตโนมัติ เพื่อตรวจสอบเส้นทางและมีการวางแผนเพื่อสกัดจับ จนกระทั่งทราบว่ารถยนต์ที่ตรงกับเป้าหมายจำนวน3คัน คือรถยนต์หมายเลขทะเบียน 4กต9079 กทม. , ญภ 4366 กทม. , ผก 9134 สุพรรณบุรี วิ่งติดตามกันมาจากภาคกลางและขึ้นไปในพื้นที่เสี่ยงสูง จว.เชียงราย และกำลังวิ่งมุ่งหน้าลงมายังจุดตรวจแม่พริก เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนจัดกำลังตามจุดที่มีแสงสว่างเพียงพอเพื่อสะดวกในการมองเห็นและตรวจค้น

กระทั่งมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา  หมายเลขทะเบียน 4กต9079  ขับเข้ามา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถมีผู้ที่นั่งมาด้วยกัน3คน และสงสัยว่าเป็นรถนำจึงได้ปล่อยให้ขับผ่านไป แต่สังเกตุเห้นว่าเมื่อผ่านไปประมาณ ๅจจ เมตร รถคันดังกล่าวได้หยุดจอดและมีคนในรถชะโงกหน้ากลับมามองที่ด่าน ทางเจ้าหน้าที่จึงซ้อนแผนทำเป็นเก็บจุดตรวจและเลิกการปฎิบัติงาน

หลังจากนั้นได้มีรถยนต์รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ  สีเทาดำ  หมายเลขทะเบียน ญภ 4366 กทม. แล่นมาถึงจุดตรวจ มีคนขับและผู้โดยสาร จำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดจอด แต่รถยนต์คันดังกล่าว ได้เร่งเครื่องยนต์หลบหนีไปทางถนนพหลโยธินขาล่อง  เจ้าหน้าที่ ได้ขับรถยนต์ไล่ติดตาม ไปจนถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 589 พบรถเสียหลักจอดอยู่ร่องกลางถนนโดยเปิดประตูด้านผู้โดยสารทิ้งไว้ และเครื่องยนต์ยังติดอยู่  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แบ่งกำลังออกติดตาม อีกทั้งประสานงานพื้นที่ใกล้เคียงให้ช่วยสกัดจับ ต่อมาได้รับแจ้งจากชุดจับกุมด่านตรวจพยุหะคีรีฯ ว่าได้สกัดจับรถยนต์เก๋งพร้อมบุคคลในรถ จำนวน 5 คน ได้ซักถามบุคคลทั้ง 5 คน ให้การยอมรับว่าได้หลบหนีการจับกุม จากจุดตรวจยาเสพติดพื้นที่ สภ.แม่พริก จริง จึงได้จับกุมและควบคุมตัวมายัง สภ.แม่พริก เพื่อดำเนินคดี

ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกชุดได้เข้าตรวจสอบรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ พบว่าภายในรถยนต์มีถุงกระสอบสายรุ้ง จำนวน 10 ถุง เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เปิดถุงกระสอบสายรุ้ง ออกดูจึงพบว่าภายในบรรจุยาเสพติดลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวอัดเป็นก้อนสีเหลี่ยม เมื่อนำตัวอย่างมาทดสอบกับน้ำมาร์คควิด ผลปรากฎเป็นสีน้ำตาลเข้ม ระบุได้ว่าเป็นเมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์ 

จากนั้นประมาณ 10 นาที ได้มีรถยนต์กระบะแค๊ป ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา  หมายเลขทะเบียน ผก 9134 สุพรรณบุรี ได้แล่นมาถึงจุดตรวจด้วยความเร็ว โดยมีคนขับและผู้โดยสารมาด้วยกัน2คน เมื่อเห็นไฟสัญญาณไฟของเจ้าหน้าที่ คนขับได้ขับรถวกกลับและทิ้งวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายกระสอบถุงสายรุ้ง จำนวน 2 ใบลงจากรถที่บริเวณข้างถนนพหลโยธินขาขึ้น ห่างจากจุดตรวจประมาณ 1 กม.  เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเป็นถุงกระสอบสายรุ้ง  ปรากฏว่าข้างในถุงมีกระสอบฟาง จึงได้แกะดูพบว่าเป็นยาไอซ์  จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจบ้านนา สภ.วชิรบารมี จว.พิจิตร สามารถจับกุมรถและผู้ต้องหาทั้ง2คนไว้ได้และนำตัวส่งมายัง สภ.แม่พริก

จากการซักถามผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ซึ่งเป็นชาวสุพรรณบุรีทั้งหมด ให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันลักลอบขนยาเสพติดของกลางดังกล่าว จากพื้นที่ จว.เชียงราย   เพื่อนำส่งปลายในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถยนต์ของกลาง จำนวน 3 คัน เป็นยานพาหนะในการลักลอบขนยาเสพติดในครั้งนี้จริง โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธินจาก อ.พาน จว.เชียงราย ผ่าน จว.พะเยา ,อ.งาว ,อ.เมืองลำปาง,อ.เกาะคา ,อ.สบปราบ,อ.เถิน จนถูกจับกุมดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา "ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑(เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย