ขนลุก!!! ช่างเคาะพ่นสีถ่ายรูปปั้นในสำนักสงฆ์แต่ภาพปรากฎคล้ายคนนุ่งโจงกระแบนแต่ไม่เห็นหัว

         หลังจากที่มีชาวลำปางได้แชร์ภาพถ่ายซึ่งมีลูกศิษย์วัดคนหนึ่งได้ถ่ายรูปปั้นยักษ์หรือท้าวเวชสุวรรณที่ยืนเฝ้าประตูสำนักสงฆ์สันป่าตึง เลขที่ 186 หมู่ที่ 8 ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง  ซึ่งในภาพถ่ายปรากฎว่ามีภาพปริศนาคล้ายคนนุ่งโจงกระเบนแต่เห็นแค่ครึ่งตัวคือท่อนล่างแต่ไม่เห็นหัว ซึ่งหลังจากที่มีการแชร์ต่อๆกันเป้นจำนวนมากก็มีประชาชนเข้าไปคอมเม้นท์ไปต่างๆนาๆทั้งที่เชื่อและไม่เชื่อ

         ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังสำนักสงฆ์สันป่าตึง เมื่อไปถึงที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวพบพระนครฐิติคฺโณ เจ้าสำนักสงฆ์ พร้อมลูกศิษย์ และนายชลิต พรเกียรคิตีรี อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นผู้ถ่ายภาพดังกล่าว ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งป็นปูนปั้นขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับประตูของสำนักสงฆ์ พร้อมเล่าว่าตนเองมีอาชีพเป็นช่างเคาะพ่นสีของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และเป็นลูกศิษย์สำนักสงฆ์แห่งนี้ เมื่อช่วงปะมาณ 6โมงเย็นวันที่ 22 เม.ย.64 ที่ผ่านมาตนเองได้ใช้มือถือถ่ายภาพรูปปั้นของท่านท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งตนเองเคารพนับถือ เมื่อเข้า-ออกสำนักสงฆ์ ก็จะยกมือไหว้ทุกครั้ง ตนเองได้ถ่ายภาพเก็บไว้ 2-3 รูป ตอนแรกก็ไม้ได้คิดอะไร จนกระทั่งได้เปิดดูรูปและสังเกตุในภายหลังพบว่าในภาพมีภาพปริศนาคล้ายกับมีคนนุ่งโจงกระเบนมีผ้าสีแดงมัดเอวแต่ภาพเห็นเพียงครึ่งตัวไม่เห็นส่วนหัว และเมื่อย้อนกลับมาดูด้านหลังรูปปั้นตามในภาพก็ไม่มีวัตถุหรือสิ่งของใดๆมาอยู่ด้านหลังรูปปั้นเลย จึงได้ส่งรูปไปทางไลน์ให้พระอาจารย์ดูและก็มีการโพสต์ภาพลงในเฟชบุ๊คจนเป็นข่าวดังกล่าว ซึ่งส่วนตัวมองว่าภาพปริศนาที่เห็นอาจจะเป็นร่างของพ่อพญาผาบที่มาแสดงให้ตนเองเห็น เพราะรูปปั้นของท่านก็ตั้งอยู่ใกล้ๆและถือว่าเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล

         ด้านพระนครฐิติคฺโณ เจ้าสำนักสงฆ์เปิดเผยว่าที่ตั้งสำนักสงฆ์สันป่าตึง แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ม่อนผญาผาบหรือเนินพญาผาบซึ่งมีการเล่าขานต่อๆกันมาว่าม่อนดังกล่าวเมื่อสมัยก่อนเคยเป็นเส้นทางเดินทัพของทหาร ส่วนรูปปั้นพญาผาบนั้นปั้นตามนิมิตรที่ท่านเคยฝัน และจากภาพถ่ายปริศนาที่ลูกศิษย์ถ่ายได้นั้นขึ้นอยู่กับความเชื่อและมุมมองของแต่ละบุคคลว่าจะมองเป็นภาพอะไร บางคนเชื่อว่าเป็นอาจจะเป็นร่างท้าวเวสสุวรรณ บางคนก็มองว่าเป็นร่างของพญาผาบนุ่งโจงกระเบนและผูกผ้าสีแดงมัดที่เอวมาปรากำให้เห็นแค่ครึ่งท่อน และบางคนก็มองว่าเป็นร่างพ่อปู่แม่ย่าหรือเจ้าวัดเจ้าวามาปรากฏให้เห็น ซึ่งแล้วแต่คนจะมอง