สภ.ห้างฉัตร-สกัดรวบต่างด้าว-41ราย-แอบซุกรถทัวร์จากเชียงใหม่เข้ากรุงเทพฯ

เมื่อเวลา 21.30 น. คืนที่ผ่านมา(19 ก.ย.) นายนเรศวร์ฤทธิ์ อุบลศรี นายอำเภอห้างฉัตร  พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฤกษ์ชัย แสงสว่าง ผกก.สภ.ห้างฉัตร ได้รับแจ้งจากสายข่าวที่น่าเชื่อถือว่า จะมีรถโดยสารประจำทาง หมายเลขทะเบียน 16 - 5387 ก.ท.ม. ลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ผิดกฎหมายจากพื้นที่จังหวัดเซียงใหม่เพื่อเดินทางต่อไปยัง ก.ท.ม. โดยจะใช้เส้นทางถนนสายลำปาง-เชียงใหม่ ผ่านบริเวณหน้าจุดตรวจจุดสกัด สภ.ห้างฉัตร หมู่ที่ 10 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง หลังจากรับแจ้งจึงได้สั่งการให้ ทำการสกัดรถคันดังกล่าวซึ่งวิ่งผ่านมาในเวลาใกล้เคียงกับที่ได้รับแจ้ง โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวนายสุภาพ ทาเหลือง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/2 หมู่ที่ 3 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ คนขับรถ และนายวิเชษฐ์ กันตี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 233 หมู่ 3 ต.แม่ตื่น อ.ลี้ จ.ลำพูน เด็กท้ายรถ ไว้สอบปากคำ

จากการสอบสวนนายสุภาพ คนขับรถทัวร์ให้การว่า ตนเพิ่งมาขับรถทัวร์เป็นวันแรก ขับรถออกมาจาก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้ากรุงเทพฯ โดยแวะรับผู้โดยสารระหว่างทาง ต้นทางจังหวัดเชียงใหม่-จังหวัดลำพูน ซึ่งผู้โดยสารจองตั๋วทางออนไลน์ เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อจึงนำตัวคนขับรถและเด็กท้ายรถรวม 3 คนไปสอบปากคำเพิ่มเติมว่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการขนแรงงานต่างด้าวในครั้งนี้หรือไม่

ส่วนรถโดยสารคันดังกล่าวเป็นของบริษัท THAISRIRAMTRANSPORT ขนแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 41 ราย ประกอบด้วยเผ่าต่างๆ ดังนี้ 1.เผ่าผลอ จำนวน 4 ราย 2.เผ่าปะโอ จำนวน 14 ราย ต.เผ่าไทยใหญ่ จำนวน 23 ราย ซึ่งต่างด้าวบางรายมาเป็นครอบครัว บางรายไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ บางรายให้ข้อมูลวกไปวนมา บางรายอ้างว่าจะไปทำงานรับจ้างที่ กทม. บางรายอ้างว่าจะไปรับจ้างทำสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตรดำเนินคดีข้อหา "ร่วมกันหรือพาหรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต"ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้งหมดอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลห้างฉัตร ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอห้างฉัตร เข้าทำการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 โดย วิธี Swab ทันที ซึ่งผลตรวจเป็นลบทั้งหมด

ส่วนความคืบหน้าในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดลำปางได้เข้าตรวจสอบและทำการสอบสวนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป