พาดูความแปลกของต้นจิ๊เดียมหรือจั๊กกะจี้ต้นไม้บ้าจี้ดิ้นได้ที่วัดสบลี

วันนี้ที่ภายในวัดสบลี ตำบลเมืองปาน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง พระปลัดระฌานนท์ ปสนฺโน เจ้าอาวาสวัดสบลี เจ้าคณะตำบลแจ้ซ้อน ได้พาชมความแปลกมหัศจรรย์ของต้นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่งซึ่งที่จังหวัดลำปางชาวบ้านเรียกว่า “ต้นจิ๊เดียม” ความแปลกคือเมื่อพระปลัดเอามือลูบเบาๆที่ลำต้น จะเห็นว่าบริเวณปลายกิ่งใบจะเริ่มขยับดิ้นไปมาเหมือนกับอาการจั๊กจี้

ผู้สื่อข่าวยังไม่เชื่อจึงลองผลัดเปลี่ยนกันลองพิสูจน์ดูว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หรือว่ามีการลูบลำต้นแรงจนทำให้ต้นสั่งไหว แต่เมื่อผู้สื่อข่าวเอามือเพียงนิ้วเดียวลูบเบาๆที่ลำต้น แค่สัมผัสเพียงเบาๆวนไปมาก้พบว่ากิ่งใบเกิดอาการดิ้นจริง ซึ่งถือว่าแปลกมากเหมือนกับต้นไม้มีความรู้สึก คล้ายกับว่าเมื่อถูกตัว(ลำต้น)ก็จะรู้สึกจั๊กกะจี้จนเกิดอาการดิ้น

ไม่เพียงเท่านั้นชาวบ้านที่อยู่ละแวกดังกล่าว เมื่อทราบก็พากันมาพิสูจน์เช่นกัน ซึ่งบางคนบอกว่าอาจจะเกิดจากลมพัด แต่เมื่อมายืนอยู่ที่ต้นไม้และรอให้ต้นไม้นิ่งสนิทและลองเอามือลูบที่ลำต้นเบาๆก็พบว่าปลายกิ่งใบของต้นจิ๊เดียมก็ดิ้นสั่นไหวเช่นกัน

พระปลัดระฌานนท์ เล่าว่าต้นจิ๊เดียมต้นดังกล่าวที่วัดมีเพียงต้นเดียว โดยโยมนำมาปลูกไว้2ต้นแต่ตายไป1ต้นเหลือเพียง1ต้น อายุได้ประมาณ 3 ปี ปกติต้นจิ๊เดียมจะขึ้นตามป่าในธรรมชาติและในจังหวัดลำปางจะขึ้นเพียงในหมู่บ้านสบลีนี้เท่านั้น ถือเป็นต้นไม้เฉพาะพื้นที่ เคยมีคนนำไปปลูกพื้นที่อื่นก็ตายหมด จากที่ฟังชาวบ้านเล่าให้ฟังคือเดิมชาวบ้านไปหาของป่าและไปเจอต้นไม้ลักษณะนี้ขึ้นในป่าเมื่อเอามือไปจับที่ต้นก็พบความแปลกคล้ายคนที่จั๊กกะจี้ จึงได้เรียกว่าต้นจิ๊เดียมตามภาษาพื้นบ้านของลำปาง

สำหรับ“ต้นจิ๊เดียม” หรือ “ต้นดิ๊กเดียม” ตามข้อมูลมีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ GARDENIE TURGIDA ROXB อยู่ในวงศ์ RUBIACEAE และมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น ส่วนที่จะกระดิกได้ คือ ตรงโคนใบ ดอก นอกจากนี้ต้นจิ๊เดียม ส่วนที่เป็นดอกสามารถช่วยฆ่าพยาธิ ใบเอามาขยี้ทาแก้กลากเกลื้อน น้ำมันในเมล็ดนำมาทาแก้แผลมะเร็ง โรคเรื้อน รากช่วยแก้เสมหะเป็นพิษ แก้อาการอาหารไม่ย่อยในเด็ก เปลือกช่วยแก้ริดสีดวง และใบก็นำมาตำพอกรักษาแผลสด และไม้จากต้นดิกเดียมนำมาใช้ทำเครื่องเรือน เครื่องกลึง แกะสลัก หวี กระสวยได้อีกด้วย