คนขับรถบรรทุก-ตกใจรีบขับรถกลับมาจากเชียงรายให้ปากคำตำรวจแสดงความบริสุทธิ์ใจ-หลังตำรวจโทรแจ้งรถทับคนตาย-ยันไม่ได้ชนและยังไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถได้อย่างไร

คนขับรถบรรทุกบึ่งรถกลับจากเชียงรายพบพนักงานสอบสวน หลังได้รับแจ้งขับรถทับคนตาย เจ้าตัวปฎิเสธไม่ทราบ พบเพียงล้อหลังพ่วงจุดเดียวที่มีราบเลือดไร้รอยเฉี่ยวชน เจ้าตัวสันนิฐานผู้เสียชีวิตอาจจะเมาหรือตั้งใจกระโดดฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่รอตรวจสอบที่เกิดเหตุและจำลองเหตุการณ์อีกครั้งพรุ่งนี้




หลังจากเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา (4 ม.ค.) ได้เกิดอุบัติเหตุมีผู้พบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ตกเกลื่อนถนนสายลำปาง-งาว บริเวณแยกป่าขามเมื่อ จนท. ไปถึงจุดเกิดเหตุ ต้องรีบนำผ้าดิบมาปกคลุมชิ้นส่วนศพและเศษเนื้อเศษกระดูก ตกเกลื่อนถนนยาวเป็นระยะ กว่า 100 เมตร  และห่างไปอีก 100 เมตร บริเวณฝั่งตรงข้ามอนุสาวรีย์พ่อเจ้าทิพย์ช้าง ยังพบเศษชิ้นส่วนหัวลำตัว ที่เละจนไม่สามารถดูออกได้ว่าเป็นใคร ชิ้นส่วนแขนข้างซ้าย  ที่ บริเวณข้อมือด้านซ้ายมีการผูกสายสินไว้ด้วย ซึ่งดูตามลักษณะมือแล้วเป็นลักษณะของเพศชาย อายุประมาณ 40-50 ปี

จากการสอบถามเบื้องต้นคาดว่าศพดังกล่าวนั้นอาจจะถูกรถบรรทุกชนแล้วลากศพ ครูด มาตามพื้นถนน ก่อนที่รถคันก่อเหตุจะขับไปทางสี่แยกค่ายสุรศักดิ์มนตรี  ซึ่งวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง จนทราบว่ารถบรทุกคันดังกล่าวเป็นของนายอำนวย มาดวงศ์ อายุ55 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์  และได้โทรศัพท์ติดต่อนายอำนวยในช่วงวายของวันนี้ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรพาน จังหวัดเชียงรายเข้าตรวจสอบ ซึ่งขระนั้นนายอำนวยอยู่ระหว่างนำอาหารสัตว์ที่บรรทุกมาจากจังหวัดลำพูนลงจากรถไว้ในโกดัง และไม่ทราบว่ารถชนคนตายเช่นกัน หลังจากที่ลงของเรียบร้อยจึงได้ตีรถกลับจากเชียงรายมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เมื่อเวลา 19.00 น.

เมื่อมาถึงทางด้าน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง ได้เข้าตรวจสอบสภาพรถก็พบว่าทุกอย่างยังคงอยู่ในสภาพเดิมและเมื่อตรวจสอบสภาพรถก็พบว่ามีคาบเลือดอยู่บริเวณระหว่างล้อรถตัวพ่วงล้อหลังเพียงล้อเดียว ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดที่ทับร่างคนเสียชีวิตและล้อรถก็วิ่งต่อไปทำให้ร่างถูกฉีกและกระเด็นออกจากล้อไปตามถนนดังกล่าว

ขณะที่นายอำนวยยังคงยืนยันว่าตนเองไม่ทราบเลยว่ารถทับคนจนเสียชีวิตเพราะขณะที่จอดติดไฟแดงก็มีเพียงรถยนต์ จักรยานต์จอดขนาบด้านข้าง เมื่อสัญญาณไฟเขียวก็ออกรถ และไม่มีความรู้สึกอะไรเนื่องจากขณะออกรถประกอบกับรถบรรทุกของหนัก20-30ตัน และเป็นตัวพ่วงจึงไม่สามารถรู้สึกใดๆ ตนจึงขับไปเรื่อยๆและไปหยุดจอดที่ไฟแดงหน้าค่ายสุรศักดิ์มนตรีด้วย และขับต่อไปจนกระทั่งลงของที่อำเภอพาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ไปบอกว่าตนเองขับรถทับคน ตนเองก็ยังตกใจเพราะไม่รู้ว่าไปชนตรงไหน และประกอบกับ จนท.ตร.สภ.พาน ได้เข้าไปตรวจสอบที่รถ ก็ตรวจสอบบริเวณส่วนหัวก็ไม่พบร่องรอย จึงถามหาพ่วงซึ่งขณะนั้นได้แยกส่วนและลงของในโกดัง เมื่อลงของเสร็จจึงตรวจดูรอบๆจึงพบว่าที่ล้อมีรอยเลือด จึงได้ขับรถบรรทุก 22 ล้อ ทะเบียน 70-9050 เชียงราย กลับมาแสดงความบริสุทธิ์ของตนเอง

“ขณะที่จอดไฟแดงผมก็ไม่เห็นคนเห็นแต่รถมี่จอดด้านข้างเมื่อรถออกตัวก็ขับไปเรื่อยๆไม่ได้มีใครเรียกและไม่เห้นคนอยู่ข้างรถ เมื่อมาเห็นคราบเลือดที่ล้อรถก็ยังคิดไม่ออกว่าไปทับคนบริเวรไหน ซึ่งตนคิดว่าผู้เสียชีวิตอาจจะเมาและเดินข้ามถนนหรือไม่ก็ตั้งใจกระโดดหารถฆ่าตัวตาย”

ทางด้านพนักงานสอบสวนเผยว่าผู้เสียชีวิตขณะที่ทางโรงพยาบาลอยู่ระหว่างการชันสูตรพลิกศพ และบริเวณนิ่วมือยังสามารถที่จะหาลายนิ้วมือได้ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งเมื่อได้แล้วจะได้ติดตามหาญาติมารับศพที่เหลือต่อไป

หลังจากตรวจสอบรถแล้วทางพนักงานสอบสวนได้ให้ทำการเป่าแอลกอฮอล์ ซึ่งก็พบว่าปกติ และได้สอบถามข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม และในวันพรุ่งนี้ทาง จนท.ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จะได้เข้ามาตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดและไปจำลองภาพเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุอีกครั้ง