


สองหนุ่มสาว ลำปาง ขายที่ดินได้ไม่อยากแบ่งเงินให้ทางบ้านและกลัวถูกตำหนิว่านำเงินไปใช้ในทางไม่เหมาะสม ร่วมกันกุเรื่องถูกคนร้ายใช้เท้าถีบรถล้ม คนร้าย ฉกเงิน 4แสนหนี เพราะไม่อยากแบ่งเงินให้ทางบ้าน สุดท้ายไม่รอด ยอมรับสารภาพถูกรวบตัวเข้าห้องขัง เจอ แจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ
คืนที่ผ่านมา ( 26 ม.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุการณ์คนร้าย จี้ชิงทรัพย์ เงินสดกว่า 4 แสนบาท บริเวณกลางถนน ลำปาง-แม่ทะ บ้านกล้วยแพะ หมู่ 2 ตำบล กล้วยแพะ อำเภอเมืองจังหวัดลำปาง หลังเกิดเหตุคนร้ายหลบหนีไป
พันตำรวจโทวรเชษฐ สกิจกัน รองผู้กำกับปราบปราม สภ.เขลางค์นครลำปาง พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนรีบเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหาย เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน คือนายอนุภพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ชาว อ.แม่ทะ และ หญิงวัย 30 ปี ชาว จ.เชียงใหม่
ได้ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขณะที่ตนเองขับขี่รถจักรยานยนต์Honda Wave สีบรอนซ์เงินทะเบียน ขจจ 884 ลำปาง โดยมีแฟนสาวซ้อนท้าย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์ประกบ แล้วใช้เท้าถีบรถมอเตอร์ไซค์ที่ตนเองขับมาจนรถจักรยานยนต์ล้ม แล้วเข้ามาชิงทรัพย์ เป็นเงินสด จำนวน 4 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินสดที่ตนเองได้เบิกมาจากธนาคาร เพื่อจะนำไปจ่ายค่าการซื้อขายที่ดินให้ญาติ ก่อนที่คนคนร้าย จะขับจักรยานยนต์หลบหนีไป
ซึ่งหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวทั้งคู่มาทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เขลางค์นานกว่าหนึ่งชั่วโมง ซึ่งก็พบพิรุธหลายอย่างทั้งยังไม่พบร่องรอยบาดแผลตามร่างกาย และรถจักรยานยนต์ก็ไม่พบความเสียหายเลย จึงได้ทำการแยกตัวสอบแยกห้อง จนกระทั่งสุดท้ายทั้งสองคนก็ สารภาพว่าเหตุการณ์ที่แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นทั้งคู่ได้กุเรื่องขึ้นมาทั้งหมด
พันตำรวจโท วรเชษฐ สกิจกัน รองผู้กำกับปราบปราม สภ. เขลางค์นคร เปิดเผยว่า ทาง ตำรวจชุดสืบสวน ได้สอบปากคำ ทั้งสองคนก็ยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นกุเรื่องขึ้นมา เพราะต้องการนำเงินที่ขายที่ดินที่บ้านบางส่วนไปใช้ส่วนตัวและกลัวทางบ้านจะรู้ว่านำเงินไปใช้
หลังจากสอบปากคำเสร็จแล้วตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาแจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย และ แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการฯ ก่อนคุมตัวทั้งคู่ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป