แม้แต่เงินวัดก็หาย!!! สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนศาลาหลวงแฉ เงินในบัญชีหาย-กลายเป็นลูกหนี้เงินกู้ทั้งๆที่ไม่เคยกู้เงิน-แม้แต่บัญชีเงินฝากวัด5บัญชียอดเกือบ4แสนเหลือ4หมื่น-คาดเงินสมาชิกล่องหนเกิน10ล้าน

Last updated: 24 พ.ค. 2565  |  986 จำนวนผู้เข้าชม  | 

แม้แต่เงินวัดก็หาย!!! สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนศาลาหลวงแฉ เงินในบัญชีหาย-กลายเป็นลูกหนี้เงินกู้ทั้งๆที่ไม่เคยกู้เงิน-แม้แต่บัญชีเงินฝากวัด5บัญชียอดเกือบ4แสนเหลือ4หมื่น-คาดเงินสมาชิกล่องหนเกิน10ล้าน

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊ก “จีเอ็มเอ็ม ชอร์ป” ได้เขียนข้อความลงในสื่อออน์ไลน์กลุ่มสาธารณะของจังหวัดลำปางว่า “กับสหกรณ์เครดิตแห่งหนึ่งในตำบลศาลา แม่ผมฝากเงินมาตลอดเดือนละ 100-200 บาท ทุกเดือนหลายสิบปีไม่ขาด ในบัญชีเงินฝากมีเงินอยู่ 4x,xxx บาท วันนี้ได้ยินข่าวไม่ชอบมาพากล มี จนท.จากจังหวัดเข้ามาตรวจสอบ แม่ผมเลยไปตรวจด้วยเนื่องจาก3เดือน ที่ผ่านมาต้องการถอนออกแต่ไม่ได้ซักที แจ้งว่าต้องรอ จนท.จากจังหวัดมาตรวจสอบ ปรากฎว่าจากเรามีเงินฝาก กลายว่าเราเป็นหนี้ กู้มาตั้งแต่ปี 58 เราจะกู้มาทำไมกู้ยังไงเรามีแต่ฝากเพื่อออมไว้ให้ลูกหลานในอนาคต อีกก้อนหนึ่งเป็นเงินฝากกลุ่มน้ำพริกที่ทำร่วม มีเงิน 15,xxx บาท กลายเป็นเหลือ 1,2xx  บาท เงินส่วนนี้หายไปไหนครับ สหกรณ์มีระบบการตรวจสอบทุกปีๆ หรือครึ่งปีไม่ใช่เหรอครับ เกิดอะไรขึ้นครับ มีใครเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างครับ ตอนนี้ทำยังไงกันบ้างครับ  ทำงานมาไม่เคยให้คนที่บ้านกู้เงินเลย แต่กลายเป็นหนี้?

หลังจากมีการเขียนข้อความดังกล่าว ได้มีสมาชิกซึ่งอยู่ในพื้นที่ และบางรายเป็นสมาชิก ได้เขียนคอมเม้นท์มนับสนุนข้อความดังกล่าว โดยบางรายระบุว่าแม้แต่เงินวัดก็ยังหาย บางคนก็บอกว่าเงินของคนในครอบครัวก็หายเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านศาลาหลวง พบกับนายจำนงค์ ชัยมาเชื้อ ผู้ใหญ่บ้านศาลาหลวง ตำบลศาลา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ได้ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากส่วนกลางได้มาตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นและมีการนัดหมายสมาชิกทั้งหมดให้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงและรับฟังการตรวจสอบพร้อมกันในวันที่ 26 พ.ค.นี้ สำหรับตนเองในฐานะผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ดูแลเงินของวัดร่วมกับเจ้าอาวาสและไวยาวัจกร เงินวัดมีทั้งสิ้น5บัญชี ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเงินบริจาคทั้งสิ้น รวมเป็นเงินประมาณเกือบ 400,000 บาท ขณะนี้จากการตรวจสอบเงินเหลือทั้ง5บัญชีไม่ถึงสี่หมื่นบาท พบว่าเงินหายจากบัญชีในปี 2558 ก่อนเรื่องมาแดงก็เมื่อตอนที่วัดจะทำประตูตนจึงจะขอเบิกเงินจำนวนหนึ่งแสนบาทแต่ก็เบิกไม่ได้ กรรมการฯบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา และต่อมาก็มีสมาชิกไปขอเบิกเงินก็ไม่ได้เงินโดยกรรมการบอกว่าขาดสภาพคล่อง จนมีการร้องไปยังสหกรณ์ให้มาตรวจสอบ

นอกจากนี้ยังมีเงินกองทุนเงินล้านมีเงินฝาก 1.2 ล้านบาท ขณะนี้พบว่ามีเงินในบัญชีเพียง 6,000 กว่าบาท เท่านั้น และกองทุนอื่นๆที่นำเงินไปฝากไว้ก็หายเช่นกัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้วแต่ไม่มีใครทราบเพราะสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุจะนำมาฝากเพียงอย่างเดียวในลักษณะเงินออมซึ่งแต่ละคนจะมีเงินฝาก3-4หมื่นบาทเกือบทุกคน แต่ถูกถอนไปใช้หมดโดยเจ้าตัวไม่เคยถอนเลย และไม่ได้สังเกตุหรือมีพิรุธเพราะสมุดเงินฝากที่อยู่กับตัวสมาชิกมีเพียงตัวเลขและรายเซ็นต์คนรับเงินเท่านั้น จึงเชื่อว่าต้องเป็นคนในเพราะคนนอกคงไม่มีใครเอาไปได้และคงทำเป็นทีม จึงทำให้สมาชิกคิดว่าเงินยังอยู่ครบ ซึ่งหลังจากเรื่องแดงก็มีการโทรสอบถามกันตนเองก็ได้ให้สมาชิกแต่ละคนนำสมุดบัญชีไปเช็คด้วยตนเองและให้มาตรวจสอบพร้อมกันอีกครั้งในวันที่26 นี้ ส่วนเงินสมาชิกที่หายออกจากบัญชีเบื้องต้นคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทหรือมากกว่านั้นต้องรอสรุปยอดอย่างเป็นทางการจากการตรวจสอบของ จนท.อีกครั้ง

ขณะที่คุณยายอรุณ วังตา อายุ 85 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนศาลาหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นเพียงสมาชิกเท่านั้น  ยอมรับว่าเสียใจที่เกิดเหตุการแบบนี้ขึ้น กลัวสหกรณ์จะล้มเพราะเมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นมาก็คงขาดความน่าเชื่อถือคงไม่มีคนเอาเงินมาฝากอีก คุณยายอรุณ ได้เล่าย้อนให้ฟังถึงการก่อตั้งสหกรณ์ฯว่าต้องการช่วยเหลือคน ต้องการให้เป็นที่ออมเงินเบิกเงินได้ง่ายของชาวบ้านโดยไม่ต้องเดินทางไกล โดนตนได้เริ่มรวมกลุ่มในปี 2534 ได้ชักชวนคน กลุ่มต่างๆมาร่วมจนกระทั่งปลายปีก็สามารถตั้งเป็นสหกณณ์ได้ฯ ตนจึงชักชวนให้กลุ่มต่างๆทั้งในหมู่บ้าน ตำบล และในอำเภอ บางส่วนให้นำเงินมาฝากที่นี่ก็ได้รับการยอมรับ และที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา จนท. จนกระท่ังวันนี้ทราบข่าวก็ตกใจเครียดมาก

คุณดวงใจ รัตนธัญญา ลูกสาวคุณยายอรุณ เล่าว่ารับทราบข่าวว่าสมาชิกถอนเงินไม่ได้มาระยะหนึ่งแล้วคุณแม่ก็เคยเข้าไปสอบถามและบอกให้ดำเนินการให้ดี จนกระทั่งล่าสุดมีสมาชิกแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และเมื่อนำสมุดเงินฝากของคุณแม่ทั้ง 2 เล่ม คือยอด 275,000 และ 40,000 กว่าบาท ไปตรวจสอบปรากฎว่ายังอยู่ครบ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ชื่อของคุณแม่ปรากฎเป็นผู้กู้เงินสหกรณ์ยอดเงิน 180,000 กว่าบาท ซึ่งคุณแม่ไม่ได้กู้ ได้สอบถาม จนท.ๆก็บอกว่าสหกรณ์ขาดสภาพคล่อง ก็ได้ถามกลับไปว่าเมื่อขาดสภาพคล่องแล้วต้องนำชื่อสมาชิกมาเป็นคนกู้เพื่อเอาเงินมาหมุนเวียนใช่ไหม จนท.ไม่ตอบ ซึ่งก็ต้องรอการตรวจสอบของส่วนกลางที่ลงมาว่าจะแจ้งกับสมาชิกทุกคนว่าอย่างไร ซึ่งขณะนี้สิ่งที่พบมี  2 กรณีคือ 1. เงินหายจากบัญชีของสมาชิกเกือบทุกราย จากหลักหมื่น หลักแสน เหลือติดบัญชีหลักพัน 2.สมาชิกมีชื่อเป็นผู้กู้เงินโดยไที่ไม่เคยกู้มาก่อน บางคนโดนทั้งสองอย่างคือเงินฝากก้หายแถมมีชื่อเป็นผู้กู้เงินกับสหกรณ์อีก บางคนถึงกับเครียดเข้าโรงพยาบาลไปแล้วก็มีเพราะเงินส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้สูงอายุบอกว่าเงินฝากเหล่านั้นทำงานทุกวันและแบ่งเอามาฝากเพื่อไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิตซึ่งน่าสงสารมาก

สำหรับสมาชิกของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนศาลาหลวง จำกัด มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563  ครั้งที่ 24/2564 วันที่ 15 ธันวาคม 2564 มีสมาชิกมาประชุม 101 คน จากสมาชิกทั้งหมด 348 คน ได้สรุปผลประกอบการงบการเงินของสหกรณ์ดังนี้ ทุนเรือนหุ้น ปี 2563 (6,322,050.00) ปี2564 (5,841,550.00) ทุนสำรอง ปี 2563 (2,497,179.74) ปี 2564 (2,563,103.42) ทุนสะสมตามข้อบังคับ ระเบียบและอื่นๆ ปี 2563(525,215.94) ปี2564 (666,645.94) กำไรสุทธิประจำปี ปี 2563(273,893.68) ปี 2564 (62,430.54) รวมทุนของสหกรณ์ ปี2563 (9,618,339.36) ปี 2564 (9,133,729.90) รวมหนี้สินและทุนของสหกรณ์ ปี 2563 (16,086,486.49) ปี 2564 (15,288,914.10)

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้