ธ.ก.ส.จังหวัดลำปาง-เดินหน้าโครงการมหกรรมแก้ไขหนี้เกษตรกร ประจำปี 2565- 2โครงการ-1มาตรการ-เชิญชวนลูกค้าเงินกู้ ธ.ก.ส.ทุกท่านตรวจสอบสิทธิ์ของตนเองว่าเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่

Last updated: 18 มิ.ย. 2565  |  1674 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ธ.ก.ส.จังหวัดลำปาง-เดินหน้าโครงการมหกรรมแก้ไขหนี้เกษตรกร ประจำปี 2565- 2โครงการ-1มาตรการ-เชิญชวนลูกค้าเงินกู้ ธ.ก.ส.ทุกท่านตรวจสอบสิทธิ์ของตนเองว่าเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่

 

 

นายกัญจน์  วนสัณฑ์วงกต  ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดลำปาง  เปิดเผยว่ากับผู้สื่อข่าวว่า จากการที่รัฐบาลกำหนดให้ปี พ.ศ.2565 เป็นปีแห่งการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนโดยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาหนี้สินและปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงการคลังและสถานบันการเงินเฉพาะกิจ กำหนดให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนเป็นภารกิจหลัก สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดลำปาง จึงเดินหน้าโครงการมหกรรมแก้ไขหนี้เกษตรกรประจำปี 2565 ประกอบไปด้วยโครงการชำระดีมีคืน, โครงการลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน และมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน 

สำหรับเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นลูกค้าสินเชื่อของ ธ.ก.ส.ทั้งเกษตรกร, บุคคลผู้ประกอบการและสถาบันที่มาชำระหนี้กับธนาคารในช่วงเวลาดังกล่าวจะได้สิทธิในการลดดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกินร้อยละ 50 ของดอกเบี้ยค้างชำระทั้งหมดแล้วแต่สิทธิประโยชน์ของลูกหนี้แต่ละรายที่ได้รับ โดยจะนำดอกเบี้ยที่ได้ลดมาตัดหนี้ชำระต้นเงินสัญญาที่ได้รับชำระหนี้กรณีไม่มีหนี้คงเหลือจะโอนเข้าบัญชีเงินฝากของลูกค้าในวันถัดไป และมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืนลูกค้าจะได้รับสิทธิในการลดอัตราดอกเบี้ยและปรับตารางการชำระหนี้ใหม่ให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดของลูกหนี้ โดยสามารถขยายระยะเวลาชำระหนี้ได้ถึง 20 ปี

สำหรับโครงการมหกรรมแก้ไขหนี้เกษตรกร ประจำปี 2565 มี 2 โครงการและ 1มาตรการ ดังนี้

1. โครงการชำระดีมีคืน
     จากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ตั้งแต่ปี 2563 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ลูกค้า ธ.ก.ส. ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางทางอ้อม ธ.ก.ส. จึงได้ดำเนิน “โครงการชำระดีมีคืน ปีบัญชี 2565” เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความวิตกกังวลและผ่อนคลายภาระในการชำระหนี้ของลูกค้า และจูงใจให้ลูกค้าได้มีโอกาสได้รับเงินสดกลับคืน ไปใช้เสริมสภาพคล่องหรือใช้จ่ายในครัวเรือน ลักษณะหนี้ที่สามารถเข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นหนี้ถึงกำหนดชำระในแต่ละไตรมาสของปีบัญชี 2565 โดย ธ.ก.ส. จะช่วยเหลือลูกหนี้ซึ่งมาชำระหนี้คืนธนาคารระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566 ด้วยการคืนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากของลูกค้าในวันทำการถัดไป ซึ่งมีเงื่อนไขดังนี้

     1. เกษตรกรและบุคคล คืนดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง สะสมไม่เกินรายละ 1,000 บาท

     2. กลุ่มบุคคล นิติบุคคล วิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้าน คืนดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง สะสมไม่เกินรายละ 3,000 บาท

     ลูกค้าที่มีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือตามโครงการในจังหวัดลำปาง จำนวน 33,278 ราย จำนวนเงินประมาณ 33.3 ล้านบาท

2. โครงการลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน 
จากการที่รัฐบาลกำหนดให้ ปี พ.ศ. 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน เพื่อบรรเทาภาระทางการเงินของลูกหนี้และจูงใจให้ชำระหนี้ดีขึ้น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จึงมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยธรรมชาติ ราคาผลผลิตตกต่ำ ประกอบกับการระบาดของไวรัสโควิด–19 ส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรอย่างมาก ให้สามารถปลดเปลื้องภาระหนี้สินของตนเอง ภายใต้ “โครงการลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน ปีบัญชี 2565” ทั้งนี้เพื่อช่วยลดภาระหนี้ให้กับลูกค้า โดยลดภาระการจ่ายชำระดอกเบี้ยให้บางส่วน และจูงใจให้ลูกค้ารักษาประวัติการส่งชำระหนี้กับธนาคาร ลักษณะหนี้ที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้จะต้องเป็นหนี้ที่มีลักษณะค้างชำระตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป หรือเป็นสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคาร โดย ธ.ก.ส. จะช่วยเหลือลูกค้าด้วยการลดดอกเบี้ย ซึ่งมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้

     1. กรณีที่ลูกหนี้ชำระหนี้เสร็จสิ้น คือ ชำระทั้งต้นเงินและดอกเบี้ย ธ.ก.ส.จะลดดอกเบี้ยให้ลูกหนี้สูงสุดในอัตราร้อยละ 50% ของดอกเบี้ยทั้งหมด โดยลดให้ทันทีเมื่อลูกหนี้นำเงินมาชำระหนี้ได้เสร็จสิ้น ณ วันทำการนั้นๆ

     2. กรณีที่ลูกหนี้ชำระหนี้ได้แค่ดอกเบี้ยทั้งหมด หรือดอกเบี้ยบางส่วน ธ.ก.ส. จะลดดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ในอัตราร้อยละ 30, 20 และ 10 ตามลำดับ โดยนำดอกเบี้ยที่คืนให้มาตัดชำระต้นเงินของบัญชีที่ชำระ หรือกรณีไม่มีต้นเงินคงเหลือจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของลูกหนี้ในวันทำการถัดไป

  ลูกค้าจังหวัดลำปางที่มีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือตามโครงการนี้ จำนวนลูกค้า 36,980 ราย จำนวนเงินประมาณ 3,300 ล้านบาท

3. มาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน

สำหรับลูกค้า ธ.ก.ส.ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจากภัยธรรมชาติ และการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้โดยธนาคารจะดำเนินการประเมินสมรรถนะและความสามารถในการประกอบอาชีพของลูกหนี้ และให้ความช่วยเหลือด้วยการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ ตามความสามารถกระแสเงินสดของลูกค้าที่ส่งชำระหนี้ได้ โดยขยายระยะเวลาชำระทั้งสัญญาต้นเงินและดอกเบี้ยได้สูงสุดไม่เกิน 20 ปี พร้อมกับลดอัตราดอกเบี้ยให้กับลูกค้าแต่ละราย เพื่อให้ลูกหนี้สามารถวางแผนทางการเงินและบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพและดำรงชีพได้ชัดเจนขึ้น โดยกำหนดการชำระหนี้ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ที่สอดคล้องกับรายได้ในปัจจุบันที่ลดลงมาก และทยอยจ่ายเพิ่มขึ้นเมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น พิจารณาให้เหมาะสมกับปัญหาของลูกหนี้แต่ละรายที่มีปัญหาและการฟื้นตัวต่างกัน นอกจากนี้ลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการทุกรายจะได้รับการพัฒนาทักษะความรู้ทางการเงิน และทักษะการประกอบอาชีพด้วยความสมัครใจ อย่างน้อย 1 ทักษะ
มหกรรมแก้ไขหนี้เกษตรกรของ ธ.ก.ส.จังหวัดลำปาง มีเกษตรกรที่ได้รับความช่วยเหลือระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 รวมจำนวน 70,258  ราย จำนวนเงินประมาณ 3,333.3 ล้านบาท

- นอกจากธนาคารจะมีการบริการลูกค้า ณ สำนักงาน ธ.ก.ส.ทุกอำเภอในจังหวัดลำปางแล้ว ธนาคารยังมีแผนออกบริการทางการเงินเคลื่อนที่โดยใช้ Mobile Banking Unit ธ.ก.ส.ทุกสาขาในสังกัดจังหวัดลำปาง ให้บริการกับลูกค้าในชุมชน สามารถทำธุรกรรมทางการเงิน/สินเชื่อได้ทุกประเภท เป็นประจำทุกสัปดาห์ด้วย

- ทั้งนี้ลูกค้า ธ.ก.ส.ทุกรายสามารถตรวจสอบสิทธิ์ของตนเองได้ที่สาขาของธนาคาร ธ.ก.ส.ทุกสาขาใกล้บ้านที่ท่านสังกัดอยู่ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้