น้าชายฉุนหลานพิการท้าให้ไปฟ้องศาลเรื่องค้างค่าที่ดิน15,000บาทคว้าปืนลูกซองยิงหลานดับคาใต้ถุนบ้าน

เย็นวันนี้ (7 กรกฎาคม 2565)   ร้อยตำรวจเอก สุวิท ก้อนทอง พนักงานสอบสวนเวร สถานีตำรวจภูธรบ้านเอื้อม  พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลลำปาง และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยลำปางจุดแม่ตุ๋ย   เข้าตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 1 บ้านสบค่อม ตำบลบ้านค่า อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง  หลังรับแจ้งเกิดเหตุมีคนฆ่ากันตาย

เมื่อไปถึงพบจุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณใต้ถุนบ้านไม้สองชั้น พบศพนายอำพล วงคอินทร์  อายุ 54 ปี  นอนเสียชีวิตจมกองเลือด  หลังจากถูกอาวุธปืนลูกซองยิงเข้าที่ศีรษะ ใกล้กันพบรถสามล้อจักรยานเป็นสามล้อคนพิการอยู่ข้างศพผู้เสียชีวิต  เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนภรรยาผู้ตาย คือ นางวันดี อายุ 47 ปี เล่าให้ฟังว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ปั่นจักรยานสามล้อคนพิการ  มาจากบ้านซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร เพื่อมาพูดคุยเรื่องทั่วไป 

ขณะที่ชาวบ้านคุณยายน้อย(นามสมุมติ) พี่สาวผู้ก่อเหตุแม่ของผู้ตาย ซึ่งหูไม่ค่อยได้ยินและอยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าก่อนเกิดเหตุก็นั่งคุยกันทั่วไปจนทะลาะกันซึ่งตนฟังไม่ค่อยได้ยินว่าทะเลาะเรื่องอะไรกัน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะขึ้นไปเอาปืน(ทราบภายหลัง)ห่อด้วยผ้าลงซึ่งไม่ทราบว่าเป็นอะไรก่อนที่จะแกะห่อผ้าและยิงผู้ตายจนหงายล้มลงไปซึ่งตนเองยังได้ไปปลุกแต่ก็ไม่ทันแล้ว 

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์เวรกำลังชันสูตรพลิกศพและจะได้สอบปากคำญาติผู้เสียชีวิตเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการก่อเหตุระหว่างน้ากับหลานในครั้งนี้อีกครั้ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวน้าชายไปสอบปากคำที่ สภ.บ้านเอื้อม

โดยนายอุ่นเรือน ได้เปิดใจขณะที่ถูกนำตัวไปสอบปากคำว่า สาเหตุเกิดจากที่ตนเองได้ทวงถามเรื่องค่าที่ดิน ซึ่งตนเองได้ขายให้กับผู้ตายไปเมื่อกว่า10ปีก่อนในราคาหนึ่งแสนบาท แต่ผู้ตายยังค้างอีก 15,000 บาท วันนี้เมื่อนายอำพล หรือ ก้ำ มาที่บ้านจึงได้ถามเรื่องดังกล่าวว่าจะจ่ายได้เมื่อไหร่ หลังจากนั้นนายก้ำก็ได้พูดคุยกับแม่คือพี่สาวของตนเอง ซึ่งตนเองไม่ค่อยได้ยินว่าคุยอะไรกัน ก่อนที่นายก้ำจะบอกกับตนเองว่าที่เหลือ 15,000 บาท หากอยากได้ก็ให้ไปฟ้องศาล ทำให้ตนเองโมโหสุดขีดจึงขึ้นไปเอาปืนที่อยู่บนบ้านลงมายิงทันที