สสจ.ลำปางแจง-กรณีสาว26เสียชีวิต-ยันไม่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน-แต่ผู้เสียชีวิตป่วยด้วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง

         จากกรณีที่ น.ส.กันยารัตน์ แสงสว่าง หรือ น้องพู่กัน อายุ 26 ปี เสียชีวิต โดยทางครอบครัวให้ข้อมูลว่าน่าจะเกิดจากที่น้องพู่กันเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด19-ซิโนแวค เข็มแรกไปก่อนหน้านี้

        โดยนางเมติกันต์ อินแสง อายุ 50 ปี แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่าลูกสาวไปรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวคเข็มแรกเมื่อวันที่ 24 ก.ย.64 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นลูกก็มีอาการเป็นไข้ เหนื่อย หอบ หายใจติดขัด กล้ามเนื้อเริ่มอ่อนแรง จนกระทั่งผ่านไปกว่าหนึ่งสัปดาห์ อาการของลูกเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ กระทั่งวันที่ 12 ต.ค.64 พ่อของลูกก็พาลูกไปหาหมอที่ รพ.ลำปาง แต่เป็นช่วงกลางคืนแพทย์จึงให้กลับบ้านไปก่อนและให้มาตรวจใหม่ในช่วงกลางวัน ต่อมาวันที่ 14 ต.ค.ช่วงเย็นตนเองจึงพาลูกไปหาหมอที่ รพ.ลำปางอีกครั้ง และลูกก็เกิดอาการช็อคและเกิดชักคาโรงพยาบาล แพทย์ต้องนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินและอาการของลูกก็เริ่มทรุดลงเรื่อยๆจนในที่สุดก็เสียชีวิตลงเมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 ต.ค. เบื้องต้นแพทย์บอกสาเหตุการตายของลูกว่าติดเชื้อ ความดันโลหิตต่ำ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าลูกน่าจะเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวไม่เคยมีโรคประจำตัว มีเพียงแค่เป็นโรคกระเพาะ ก่อนที่จะไปฉีดวัคซีน 4-5เดือน แต่ก็รักษาหายแล้ว ซึ่งตอนนี้ตนเองก็เสียใจมากไม่คิดว่าลูกสาวจะมาอายุสั้นทั้งนี้ไม่อยากโทษใครเพราะเข้าใจว่าภูมิต้านทานของแต่ละคนไม่เท่ากันบางคนอาจจะแพ้หรือไม่แพ้วัคซีนก็ได้ โดยวันนี้ได้มี จนท.มาแนะนำให้ตนเองไปทำเรื่องเพื่อขอรับเงินเยียวยาช่วยเหลือจาก สปสช.

ในเรื่องดังกล่าว นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแททย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้เปิดเผยรายละเอียดกรณีที่เกิดขึ้นว่า ก่อนอื่นทาง สสจ.ลำปางต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิติด้วย พร้อมเปิดเผยผลการตรวจ ว่าผู้เสียชีวิตมีประวัติรักษาโรคกระเพาะอาหารอักสบ และเคยใช้ยาลตความอ้วน เนื่องจากก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ (ประมาณวันที่ 7 ตุลาคม 2560) รู้สึกแขนขาอ่อนแรง มีอาการชา วันที่ 10 ตุลาคม 2564 เริ่มมีอาการถ่ายเหลว คลื่นไส้อาเจียน ปากและลิ้น เป็นแผล มีผื่นแดงบริเวณใบหน้า หลังจากนั้นวันที่ 12 ตุลาคม 2564 ช่วงเวลากลางคืน ได้เดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลลำปาง ให้รับการตรวจคัดกรองเบื้องต้นไม่พบภาวะเจ็บป่วยเร่งด่วน เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้มารับการตรวจในเวลาราชการ ต่อมาผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาอีกครั้งในวันที่ 14 ตุลาคม 2564 เนื่องจากรู้สึกอ่อนเพลียมากขึ้นจึงมาโรงพยาบาล ผลการตรวจร่างกายแรกรับ พบว่า มีอาการตาบวม มีผื่นแดงบริเวณใบหน้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผู้ป่วยรู้สึกตัวตี พูดคุยรู้เรื่อง ทำตามคำสั่งได้ ทั้งนี้ขณะรอรักษาในแผนกฉุกเฉินผู้ป่วยมีอาการชักเกร็ง แพทย์ทำการตรวจร่างกายและสแกนสมองด้วยเครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเตฮร์ และรับเป็นผู้ป่วยใน ให้การรักษาด้วยยา และให้การวินิจฉัย ขณะรับการรักษาว่าเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) จนกระทั่งวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ผู้ป่วยเริ่มมีไข้ ซึม ปลุกไม่ตื่น หายใจเหนื่อย แพทย์จึงทำการรักษาโดยการใส่ท่อช่วยหายใจร่วมกับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ และ ตรวจเลือดพบว่ามีการติดเชื้อในกระแสโลหิต ผู้ป่วยมีอาการทรุดลงเรื่อยๆ จนไม่สามารถวัดความดันโลหิตได้ ญาติปฏิเสธให้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพโดยการนวดหัวใจ (CFR) จนกระทั่งวันที่ 18 ตุลาคม 2564 เวลา 1920 น. ผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยภาวะช็อค

จากการติดเชื้อในกระแสโลหิต ร่วมกับภาวะไตวายเฉียบพลัน โดยมีปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระเสโลหิตคือผู้ป่วยเป็นโรค แพ้ภูมิตัวเอง เบื้องต้นคาดว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนโควิค-19 จังหวัดลำปางขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าไปเยี่ยมให้กำลังใจ และแจ้งแนวทางการยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาเบื้องต้นจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)

ซึ่งเป็นการเยียวยาเบื้องต้นเพื่อบรรเทาผลกระทบ โดยคณะอนุกรรมการจาก สปสช.จะเป็นผู้พิจารณาการได้รับเงินชดเชยต่อไป