Last updated: 10 พ.ค. 2567 | 254 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ถังเก็บสารไพรโรไลลิส แก๊สโซลีน ของบริษัท มาบตาพุดแทงค์ เทอร์มินอล จำกัด ซึ่งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ทำให้ชาวลำปางเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวถังเก็บก๊าซ LPG ขนาดใหญ่ ของคลังปิโตรเลียมจำนวน 2 ถัง ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองลำปาง ซึ่งแต่ละถัง ความจุถังละ 1,000 ตัน รวม 2,000 ตัน แต่ทางคลังปิโตรเลียมได้บรรจุจริงประมาณถังละ 800-850 ตันต่อถัง เพื่อให้มีช่องว่างในการระบายแรงดันภายในถัง
ซึ่งที่ผ่านมาด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัด ประกอบกับข่าวการเกิดไฟไหม้ดังกล่าวทำให้ชาวลำปางเกิดความวิตกกังวล ซึ่งในเรื่องนี้ ล่าสุด นายอนุวัฒน์ น้อยจันทร์ ผู้จัดการส่วนคลังปิโตรเลียม ลำปาง ได้อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย เพียงคนเดียว ขึ้นไปบนถังก๊าซดังกล่าวพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของคลังปิโตรเลียมและเจ้าหน้าที่ของบริษัท ศิวะ เทสดิ้ง อินสเพ็คชั่น แอนด์ซัลติ้ง จำกัด เพื่อดูการตรวจสอบและทดสอบระบบความปลอดภัยระบบเซฟตี้ของถังโซเฟียที่บรรจุก๊าซดังกล่าว เพื่อต่อใบอนุญาต ประจำปี 2567 และคลายความกังวลใจด้านความปลอดภัย โดยไม่สามารถใช้กล้องขนาดใหญ่ถ่ายรูปหรือวีดีดอได้ เจ้าหน้าที่ของบริษัททใช้เพียงกล้องถ่ายรูปขนาดเล็กถ่ายภาพนิ่งระหว่างการทำงานเท่านั้น เนื่องจากเกี่ยวข้องด้านความปลอดภัยของระบบการทำงานอิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ
นายอนุวัฒน์ น้อยจันทร์ ผู้จัดการส่วนคลังปิโตรเลียม ลำปาง ได้กล่าวว่า ในแต่ละปีตามกฎหมาย ทุก 1 ปี จะต้องมีการตรวจสอบระบบเซฟตี้ของถังโซเฟีย โดยจะมีบริษัทเอกชนที่ได้รับอนุญาตร่วมกับกรมธุรกิจพลังงาน เข้ามาตรวจสอบระบบนิรภัยหรือ Safety Valve หรือ วาล์วระบายแรงดัน หรือ ที่ช่างเรียกว่า รีลีฟวาล์ว คืออุปกรณ์ที่ป้องกันไม่ให้ระบบของเครื่องทำความเย็นเกิดความเสียหาย ในกรณีเมื่ออุณหภูมิและความดันของสารทำความเย็นในระบบด้านความดันสูง สูงเกินกว่าปกติ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์และสามารถใช้งานได้จริง ได้มาตรฐาน และ ทุก 5 ปี ก็จะต้องมีการถอดอุปกรณ์ส่วนชิ้นออกมาทำความสะอาดและเช็คความสมบูรณ์ของระบบการทำงาน รวมถึงเช็คความหนาของถัง ทดสอบความดันถัง ทดสอบการรับน้ำหนักของเสา ทดสอบการรับแรงดัน ทั้งหมดให้อยู่ในสภาพใช้งานได้จริงตามมาตรฐาน จึงอยากให้ประชาชนมั่นใจว่า ปตท.อยู่กับชาวลำปางมายาวนานยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยเช่นเดิมของอย่าวิตกกังวล
ทางด้านนายวิทูล อุดมสุทธิ์รักษา ซุปเปอร์ไวเซอร์ แผนกตรวจสอบถังแอลพีจีและหม้อไอ้น้ำ2 บริษัท ศิวะฯ ได้กล่าวหลังลงมาจากการตรวจสอบระบบทั้งหมดว่า การตรวจสอบในครั้งนี้อุปกรณ์ทุกชิ้นยังไม่มีปัญหาสามารถทำงานได้ตามปกติ โดยแต่ละปีทางบริษัทฯจะต้องมาตรวจสอบอุปกรณ์ โดยเน้นที่ Safety Valve โดยทำการถอดตัว Safety Valve ออก แล้วใส่ชุดทดสอบเข้าไป เพื่อทดสอบว่าหากแรงดันเกินค่ามาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 16.3 bar โดยมีค่า blowdowe 3% ระบบ Safety Valve จะต้องเปิดเพื่อระบายแรงดันออกมาจากถัง เพราะหากไม่เปิดก็จะเกิดอันตราย ซึ่งถังก๊าซที่มีความจุขนาดนี้จะมีการใช้ระบบ Safety Valve รวม 2 ตัวต่อถัง ซึ่งทำงานปกติ
ส่วนสาเหตุอะไรที่จะกระทบการทำงานของถังได้บ้าง นายวิทูร กล่าวว่า ก็จะเกิดจากไฟ แต่ทางคลังมีระบบสเปรย์น้ำคลุมโดยรอบถังและรอบบริเวณอยู่แล้วอัตโนมัติ ซึ่งก็ยังไม่เห็นข้อบกพร่องใดๆ
นายสุวัชระ จัทรเดช ช่างเทคนิค ได้กล่าวว่า ทางบริษัทมีหน้าที่ในการตรวจสอบระบบความปลอดภัยด้านความดันต่างๆของถังเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและได้รับการรับรอง ในการต่อใบอนุญาต ทุกงานมีความเสี่ยงเพียงแต่ว่าเราจะใช้เกณฑ์ไหนในการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุดให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจมากที่สุด สำหรับบริษัทฯ เน้นการตรวจสอบอุปกรณ์ทุกส่วนตัว Safety Valve ตัวระบายแรงดัน ตัวควบคุมระบบฉุกเฉิน ส่วนความร้อนจะมีส่วนทำให้ถังหรือระบบมีปัญหาหรือไม่ นายสุวัชระ กล่าวว่าความร้อนทำให้แรงดันขยายตัวได้แต่ถังโซเฟียนี้ ได้มีการออกแบบมาแล้วว่าสามารถรับแรงดันได้เท่าไหร่ และมีตัวช่วยระบายซึ่งก็จะตรวจสอบและทดสอบทุกปีอย่างที่มาตรวจสอบในวันนี้ และภายในถังจะเป็นอุณหภูมิติดลบอยู่แล้วจึงไม่น่าเป็นห่วงเรื่องความร้อนในปัจจุบันแทบไม่มีผลอะไรนอกจากว่าเกิดไฟไหม้รุนแรง นานๆ แต่คลังก็มีระบบควบคุมอยู่ซึ่งตนในฐานะที่เป็นบริษัทฯที่ดูแลระบบดูแล้วเป็นไปได้ยากมากแทบเป็นไปไม่ได้จริงๆ