ปปช ภาค5 นำทีมแถลงผลการดำเนินงานทั้งด้านปราบปราม และ ป้องกัน ระบุจังหวัดที่มีการร้องเรียนมากที่สุดในภาคเหนือคือเชียงใหม่ เชียงราย น่าน หน่วยงานที่ถูกร้องมากที่สุดคือ อปท.

วันนี้  ที่ห้องประชุม ป.ป.ช.ประจำจังหวัดลำปาง นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค5 พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.รวม 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนซึ่งอยู่ในพื้นที่ภาค5 ได้ร่วมกันแถลงผลการดำเนินงานประจำเดือนธันวาคม 2566 ซึ่งมีทั้งด้านงานป้องกันและงานปราบปรามการทุจริต ส่วนคดีที่ ป.ป.ช.ภาค5 แถลงและประชาชนให้ความสนใจ คือกรณี อดีตนายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัดลำปางกับพวกรวม 23 คน ในการทุจริตการแบ่งจ้างโครงการขุดลอกลำน้ำแม่เต๊าะลำปาง 4 โครงการ เพื่อหลีกเลี่ยงการประกวดราคา โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ ซึ่ง ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดส่งฟ้องดำเนินคดีอาญา รวม 8 คน โดยใน 8 คน ถูกดำเนินคดี 4 คน ขาดอยุความ 3 คน และ เสียชีวิตไปแล้ว 1 คน ส่วนอีก1คดี คือ การชี้มูลความผิด อดีต นายก อบต.วังทรายคำ อ.วังเหนือ พร้อมพวก6คน ร่วมกันพิจารณาจ่ายเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค5 ได้พิพากษาให้จำคุกคนละ1ปี และปรับคนละ 20,000 บาท จำเลยทั้ง6รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งโทษจำคุกรอลงอาญา2ปี

สำหรับในพื้นที่ภาคเหนือ 8  จังหวัด จังหวัดที่มีการร้องเรียนมาที่สุดคือ เชียงใหม่ เชียงราย น่าน รองลงมาคือลำปาง แพร่ และ พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำพูน ส่วนหน่วยงานที่ได้รับการร้องเรียนเรื่องทุจริตมากที่สุดส่วนใหญ่จะเป็น องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น

ทั้งนี้ นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค5 ฝากประชาชนช่วยสอดส่องและอยากให้ช่วยกันตรวจสอบกรณีนักการเมืองแจ้งบัญชีทรัพย์สินของตัวเองทั้งก่อนรับตำแหน่งและหลังพ้นจากตำแหน่งว่าตรงกับความเป็นจริงหรือไม่ หากพ้นตำแหน่งแล้วจะได้รู้ว่ามีทรัพย์สินใดที่เพิ่มพูนขึ้นมาเกินความเป็นจริงจะได้ตรวจสอบได้  ซึ่งการแสดงบัญชีทรัพย์สินถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแสดงบริสุทธิใจของนักการเมือง หากเริ่มต้นยังมีการปกปิด ต่อไปก็คงมีการปกปิดเรื่องอื่นๆตามมา ซึ่ง ป.ป.ช.จะนำแสดงต่อสาธารณะ6 เดือน โดยปิดประกาศ ณ สำนักงาน ป.ป.ช.และ เว็ปไซต์